บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Thanapiriya PCL (TNP.BK/TNP TB)

ประมาณการ 2Q65: กำไรจะลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ

Event

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ TNP ใน 2Q65 จะอยู่ที่ 37 ล้านบาท (-15% YoY, +4%QoQ) ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิใน 1H65 อยู่ที่ 73 ล้านบาท (-28% YoY) คิดเป็น 38% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา

Impact

คาดว่า SSSG จะยังติดลบใน 2Q65

จากข้อมูลเศรษฐกิจของ ธปท. สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมแสดงแนวโน้มการฟื้นตัว โดยเฉพาะในภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งฟื้นกลับไปอยู่ระดับก่อน COVID ระบาดแล้ว โดยโมเมนตัมการฟื้นตัวในภาคเหนือ และอีสานดีกว่าในภาคใต้ ถึงแม้ว่าราคาสินค้าผู้บริโภคและค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตที่สูงขึ้นจะกดดันการบริโภคและการเดินทาง แต่การกระจายวัคซีนและการผ่อนคลายมาตรการ lockdown จะช่วยกระตุ้นความมั่นใจของผู้บริโภค และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงคาดว่าเศรษฐกิจในภาคเหนือจะทรงตัว QoQ อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในปี 2564 อาจจะทำให้ฐานสูง ดังนั้น เราจึงคาดว่า SSSG ของ TNP ใน 2Q65 จะอยู่ ที่ -15% (จาก +8.2% ใน 2Q64 และ 27.7% ใน 1Q65) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีการขยายสาขาร้าน (เป็น 39 ร้านใน 2Q65 จาก 34 ร้านใน 2Q64) เราจึงคาดว่ายอดขายใน 2Q65 จะเพิ่มขึ้นเป็น 558 ล้านบาท (-8% YoY, -5% QoQ) ทำให้ยอดขายให้ 1H65 เพิ่มขึ้นเป็น 1.1 พันล้านบาท (-16% YoY)

คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะแข็งแกร่ง

เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ TNP ใน 2Q65 จะอยู่ที่ 17.9% (ทรงตัว YoY, +0.8ppts QoQ) จากการคัด สินค้า และ product mix ที่ดีขึ้นตามฤดูกาล ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นใน 1H65 เพิ่มขึ้นเป็น 17.5% (+0.9ppts YoY) จากสมมติฐานปีนี้ของเราที่ 17.4% เราคาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 10.1% (จาก 9.5% ใน 2Q64) เนื่องจากต้นทุน logistic สูงขึ้น และคาดว่าอัตรากำไรสุทธิ (net margin) ใน 2Q65 จะอยู่ที่ 6.7% (จาก 7.3% ใน 2Q64 และ 6.1% ใน 1Q65)

คาดว่ากำไรจะดีขึ้นต่อเนื่องใน 2H65 ในขณะที่ราคายังหุ้นน่าสนใจ

เราคาดว่าผลประกอบการของ TNP จะเร่งตัวขึ้นใน 2H65 เนื่องจาก i) มีการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ ii) การบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัวขึ้น และ iii) ฐานต่ำลงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งนี้ ราคาหุ้น TNP ปรับลดลงมาแล้ว -25% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะสะท้อนถึง i) ผลประกอบการที่อ่อนแอใน 1Q65 ii) ความกังวลเกี่ยวกับกำลังซื้อจากการที่เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น iii) ความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากต้นทุน logistic เรามองว่าราคาปิดล่าสุดของ TNP คิดเป็น PER ที่น่าสนใจที่ 16.0X (2022-EPS) เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีต -1.0 S.D. ในขณะที่คาดว่าโมเมนตัมกำไรของ TNP จะได้แรงหนุนจากปัจจัยเฉพาะตัว อย่างเช่นการขยายสาขาร้านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมาย และปัจจัยภายนอกอย่างเช่นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ไว้ที่ 5.80 บาท อิงจาก PER ที่ 24.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต)

Risks

ภัยธรรมชาติ, การแข่งขันรุนแรงมากขึ้น, การบริหารสินค้าคงคลัง, การดำเนินงานสะดุด, disruption จาก เทคโนโลยีใหม่, ความเสี่ยงจากการขยายสาขาร้าน และความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการ

- Advertisement -