บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action TRADING (Maintain)

TP upside (downside) +9.4%

Close Jul 19, 2022 Price (THB) 3.20

12M Target (THB) 3.50

Previous Target (THB) 3.50

What’s new?

  • แม้ประเมินว่าใน 2Q65 ธุรกิจปิโตรเคมีจะอ่อนแอ กดดันจากการปรับตัวลงของ Spread PP ABS และมีขาดทุน Hedging สูง อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรสุทธิจะออกมาดีที่ 3.7 พันล้าน บาท (+145% QoQ, -20% YoY) หนุนจากการเพิ่มขึ้นของค่าการกลั่น และกำไรสต็อกน้ำมัน
  • หากเป็นไปตามคาด กำไร 1H65 จะสูงกว่าคาดการณ์ทั้งปี แต่เราคงประมาณการเดิมไว้ก่อน เพราะกำไร 2H65 ยังมีความเปราะบาง

Our view

  • คาดผลการดำเนินงานหลัก 3Q65 จะมี Market GIM ระดับ US$12-16/bbl ทั้งนี้ กำไร 4Q65 จะถูกถ่วงด้วย แผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่โรงกลั่นกว่า 1 เดือน รวมทั้งมีความเสี่ยงจากโอกาสขาดทุนสต็อกน้ำมัน และความ ร่วมมือบริจาคช่วยเหลือกองทุนน้ำมัน
  • คงมุมมองเป็นกลางต่อ IRPC มองว่าสามารถลงทุนลักษณะ Laggard Play ได้ ทั้งนี้ หุ้นจะยังไม่ Outperform เพราะอุตสาหกรรม PP ABS ยังอ่อนแอ, มีปิดซ่อมใหญ่ 4Q65 และปันผล 1H65 ไม่สม่ำเสมอ

IRPC 2Q65 ได้ปัจจัยหนุนจากโรงกลั่น

ผลประกอบการดีหนุนจากธุรกิจโรงกลั่น

สำหรับ 2Q65 คาดจะมีกำไรสุทธิที่ 3.7 พันล้านบาท (+145% QoQ, -20% YoY) นับว่าเป็นรายไตรมาสที่มีผลประกอบการดี โดยแม้คาดว่าธุรกิจปิโตรเคมีจะอ่อนแอ กดดันจาก Spread PP และ ABS ที่ลดลงเหลือ US$472/ตัน (-3% QoQ, -33% YoY) และ US$934/ตัน (-13% QoQ, -52% YoY) ตามลำดับ รวมทั้งจะมีขาดทุนป้องกันความเสี่ยงสูงราว 6 พันล้านบาท เนื่องจาก Diesel Crack Spread ปรับตัวสูงขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม  ประเมินว่าปัจจัยลบข้างต้นจะสามารถชดเชยได้ด้วยการปรับตัวขึ้นของค่าการกลั่นเป็น US$17/bbl (+287% QoQ, +137% YoY) สอดคล้อง Crack Spread น้ำมันสำเร็จรูปที่สูงขึ้นมาก คาด Market GIM จะทำได้ US$19.8/bbl (+180% QoQ, +137% YoY) รวมทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ขยับขึ้น จะทำให้มีกำไรสต็อกน้ำมันเข้ามาช่วยอีก 4.5 พันล้านบาท

โมเมนตัมกำไร 2H65 ลดลง

หาก 2Q65 เป็นไปตามคาด กำไรสุทธิ 1H65 จะสูงกว่าประมาณการทั้งปีของเราที่ 3.8 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม  เราคงคาดการณ์เดิมเอาไว้ก่อน เนื่องจากเชื่อว่าผลประกอบการ 2H65 จะลดลง HoH โดยเฉพาะช่วง 4Q65 ที่มีแผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่โรงกลั่นกว่า 1 เดือน สำหรับ 3Q65 เบื้องต้นคาด Market GIM ระดับ US$12-16/bbl ลดลงจาก US$19.8/bbl ใน 2Q65 เพราะค่าการกลั่น 3QTD เริ่มอ่อนตัวลง, อัตรากำไรของปิโตรเคมี PP และ ABS ช่วง 3QTD ลดลงต่อเนื่อง QoQ และ YoY จากกำลังผลิตใหม่ของ PP และ ABS เข้าสู่ตลาดในปีนี้  4.8 ล้านตัน และ 1.8 ล้านตัน ตามลำดับ (ส่วนใหญ่เข้ามาช่วง 2H65), ต้นทุนน้ำมัน (Crude Premium) ปรับตัวสูงขึ้น โดย 3QTD Arab Light OSP เป็น Premium US$7.9/bbl (เทียบกับ US$6.2/bbl ใน 2Q65) นอกจากนี้ กำไรสุทธิยังมีความเสี่ยงจากโอกาสขาดทุนสต็อกน้ำมัน และความเสี่ยงจากภาครัฐขอความร่วมมือบริจาคกำไรบางส่วนเพื่อลดภาระกองทุนน้ำมัน

คงมุมมองเป็นกลาง

ราคาปัจจุบันหุ้นซื้อขายบน PBV ที่ 0.7 เท่า มีส่วนจากค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปี -1.50 SD ถือว่ามี Downside ไม่มาก อย่างไรก็ตาม เราคงมุมมองเป็นกลางต่อ IRPC และแนะนำเพียง TRADING ราคาเหมาะสม 3.50 บาท โดยประเมินว่าสามารถเก็งกำไรแบบ Laggard Play ได้ แต่ราคาหุ้นจะยังไม่ Outperform คู่แข่งเพราะ 1) อุตสาหกรรมปิโตรเคมี PP และ ABS (ผลิตภัณฑ์หลัก) จะถูกกดดันจากกำลังผลิตใหม่เข้าสู่ตลาดในปี 2565 – 2566 ท่ามกลางอุปสงค์จากอุตสาหกรรมยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า (ราว 80% ของ ABS) ยังได้รับผลกระทบจากปัญหา Chip shortage ที่ยืดเยื้อ 2) กระบวนการผลิตได้รับผลกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงสูงกว่าคู่แข่ง 3) 4Q65 มีแผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่โรงกลั่นรออยู่ 4) แม้ผลประกอบการ 1H65 ดี และไม่มีโครงการลงทุนใหญ่ ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 1Q65 อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ยังไม่แน่นอน เพราะภาวะปกติบริษัทฯ จ่ายปันผลปีละครั้ง เทียบกับคู่แข่งที่จ่ายเงินปันผลงวด 1H65 สม่ำเสมอ (บริษัทฯ จะรายงานผลประกอบการ 2Q65 วันที่ 9 ส.ค.)

- Advertisement -