ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

บวกต่อในกรอบแคบๆ

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ บวกต่อในกรอบแคบๆ (sideways up)… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ตามภาวะตลาดหุ้นโลก (ตามคาด) แต่ฟื้นตัวไม่แรงเท่ากับตลาดต่างประเทศ เนื่องจากธีมการฟื้นตัวในช่วงนี้อยู่ในหุ้นเทคโนโลยีและหุ้น ‘growth stocks’ ซึ่งไม่ได้เป็นสัดส่วนใหญ่ในมาร์เก็ตแคปของ SET Index… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมเป็นบวกเล็กน้อย กล่าวคือ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวต่อ ยังคงนำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากผลประกอบการของหุ้นหลักๆ อย่าง Netflix และ Tesla ต่างออกมาดีกว่าที่ Consensus คาดการณ์ไว้ และประเด็นนี้ช่วยลบล้างปัจจัยลบจากตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง เดือน มิ.ย. ที่ลดลง 5.4% MoM และต่ำกว่าที่ตลาดคาด ii) นักลงทุนส่วนหนึ่งยังคงรอดูสถานการณ์ในยุโรปในช่วงค่ำวันนี้ ซึ่ง ธ.กลางยุโรป (ECB) จะมีประชุมนโยบายการเงิน นักเศรษฐศาสตร์ของ KGI มองว่า ECB จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.25% นอกจากนี้ให้ติดตามประเด็นท่อก๊าซ Nord Stream 1 ซึ่งจะครบกำหนดซ่อมบำรุงในวันนี้ ว่าทางรัสเซียจะกลับมาส่งก๊าซได้มากน้อยเพียงใด… ด้านปัจจัยภายในประเทศ หุ้นธนาคารพาณิชย์อย่าง KKP* และ TTB* รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2565 ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ และน่าจะช่วยลดความกังวลต่อแนวโน้มกำไร ของกลุ่มธนาคารฯ ก่อนที่ผลประกอบการของธนาคารใหญ่จะทยอยออกมาภายในวันนี้

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร SNNP, IP, NEX

  • SNNP (เป้า Consensus 19.85 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 15.1 บาท / แนวต้าน 15.5 – 15.9 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 16.5 บาท (Stop loss 14.2 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานทยอยฟื้นตัวแบบไตรมาสต่อไตรมาส โดยเฉพาะใน 2H65 จากการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ เปิดการท่องเที่ยว เปิดโรงเรียน ทำให้ความต้องการบริโภคขนมขบเคี้ยว และเครื่องดื่มฟื้นตัว รวมทั้งการเตรียมเปิดโรงงานใหม่ที่เวียดนาม เฟสที่ 1 ในเดือน ต.ค. นี้ 3) SNNP ได้ทำการปรับกลยุทธ์ที่ทำให้อัตรากำไรยืนทรงตัวได้แม้ต้นทุนวัตถุดิบจะปรับขึ้นมาใน 1H65 ที่ผ่านมา ดังนั้นคาดแนวโน้มอัตรากำไรจะดีขึ้นใน 2H65 หลังราคาวัตถุดิบเริ่มทรงตัว และมีแนวโน้มลดลงตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ 4) Consensus คาดกำไรปี 2565 – 66 โต +11% YoY และ +22% YoY ตามลำดับ ทำให้ Forward PE ปีหน้าลดลงเหลือ +/-25 เท่า จาก +/-30 เท่าในปีนี้
  • IP (เป้า Consensus 24.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 17.4 บาท / แนวต้าน 18.0 – 18.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 19 บาท (Stop loss 17 บาท) 2) วานนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการขายหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP ที่ราคา 14 บาท ให้กับ บ. อินโนบิก (บ.ลูก PTT) ซึ่งจะทำให้ บ.อินโนบิก เข้าถือหุ้น IP ในสัดส่วน 20% คาดจะเป็นบวกต่อ IP ในด้าน i) การเพิ่มฐานเงินทุนเพื่อขยายสาขาร้านขายยา และการเพิ่มช่องทางขายสินค้าของ IP ผ่านช่องทางของ PTT* ทั้งในและต่างประเทศ ii) โอกาสการร่วมพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ร่วมกับกลุ่ม PTT* เช่น การพัฒนายามณีแดง (ยาชะลอวัย) เป็นต้น 3) Valuation ไม่แพง Forward PE ปีนี้ 31 เท่า และจะลดลงเป็น 24 เท่าในปีหน้า (ต่ำกว่าหุ้นร้านขายยาอย่าง HL ที่ Forward PE สูง +40 เท่า) … ข้อมูล Bloomberg consensus
  • NEX (เป้า Consensus 22.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 15.5 บาท / แนวต้าน 16.0 – 16.5 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 17 บาท (Stop loss 14.8 บาท) 2) จากการเยี่ยมชมโรงงานประกอบรถบัสอีวีของ NEX คาดจะเริ่มส่งมอบรถบัสอีวีได้ในเดือน ส.ค. นี้ โดยปัจจุบันมีออเดอร์รอส่งมอบราว +3 พันคัน (NEX มีกำลังการผลิตรถบัสอีวีเต็มที่ราว 9 พันคันต่อ ปี บนเวลาการทำงาน 3 กะ) ทั้งนี้คาดจากประเด็นรถมล์สาย 8 มีโอกาสที่ NEX จะต้องเร่งการผลิตเพื่อส่งมอบรถในปลายปีนี้ 3) Consensus คาดกำไรปีนี้ +800 ล้านบาท และจะโตต่อเนื่องเป็น +1.7 พันล้านบาทในปีหน้า Forward PE ปีนี้เท่ากับ +/-29 เท่า และคาดจะลดลงเหลือ +/-15 เท่าในปีหน้า

หุ้นมีข่าว

(0) BTS* ยื่น “ดีเอสไอ” สอบฮั้วประมูล “สีส้ม” (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) บีทีเอสยื่น “ดีเอสไอ” ร้องสอบ รฟม.ฮั้วประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม กำหนดคุณสมบัติมีเจตนากีดกันแข่งขันราคา และเอื้อประโยชน์เอกชนบางราย ด้าน รฟม.เตรียมยื่นอุทธรณ์ใน 30 วันพร้อมเดินหน้ารับซอง 27 ก.ค.นี้ตามกำหนด ชี้คำพิพากษายังไม่มีผลบังคับ เหตุคดียังไม่ถึงที่สุด

(+) ระทึกปิดยาวท่อรัสเซีย! จับตาหุ้นถ่านหินทะยาน BANPU* สุดเด่น!! AGE-LANNA รับผลพลอยได้ (ข่าวหุ้น) หุ้นถ่านหิน BANPU*-AGE-LANNA ทะยานรับดีมานด์พุ่ง! คาดวันนี้ “รัสเซีย” อาจตัดสินใจปิดท่อส่งก๊าซธรรมชาติ Nord Stream 1 ต่ออีก ทำราคาน้ำมัน-ก๊าซ-ถ่านหิน มีโอกาสกลับมาดีดตัวขึ้นอีกรอบ โบรกฯ คาดราคาถ่านหินมีโอกาสแตะ 500 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่กลุ่มไฟฟ้า BGRIM*-GPSC* ยังน่าจับตา

(+) IP รับเงินลงทุนเต็มแม็กซ์ ยอดร้านยาโตสองเท่าตัว (ทันหุ้น) IP เปิดกระเป๋าบุ๊กเงินลงทุน “LAB PHARMACY” ชี้ยอดขายสาขาพารากอนโต 2 เท่าตัว เล็งขยายสาขาเพิ่มอีก 4 แห่ง จากปัจจุบัน 20 แห่ง ชี้ดีมานด์ยา อาหารเสริมล้น เล็งส่งโปรดักต์พืชสมุนไพรลงตลาดเร็วๆ นี้ ชูธงรายได้โต 100% แตะ 1.8 พันล้านบาท เดินเกมซื้อกิจการโกยรายได้เพิ่มปีละ 1.5 พันล้านบาท

(+) SIRI รุกเมืองรอง ผุดโรงแรม “บังค์เฮาส์” รองรับท่องเที่ยวฟื้น (กรุงเทพธุรกิจ) “แสนสิริ” สบช่องท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว ลุยธุรกิจโรงแรม ผุดแบรนด์ “บังค์เฮาส์” ในเครือโรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด จับมือแลนด์ลอร์ด-เจ้าของโรงแรมขนาดไม่เกิน 100 ห้อง เจาะเมืองรอง คาด 2 ปี เปิด 6 แห่ง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่นิยมพักบูทีค โฮเทล

(0) จากกรณีที่มีข่าวการระงับการถอนเงินและสินทรัพย์ดิจิตัลชั่วคราวของ Zipmex เนื่องจากการขาดสภาพคล่องของ partners ของบริษัท โดยมีบริษัทจดทะเบียนไทยเข้าไปลงทุนใน Zipmex (Source: Hoonsmart) เราพบว่า PLANB ได้มีการลงทุนใน Zipmex จำนวน $2mn หรือประมาณ 60 ล้านบาท ภายใต้การลงทุนดังกล่าว Zipmex ได้ commit ในการใช้ป้ายสื่อโฆษณากับทาง PLANB เป็นเวลา 3 ปี โดย ณ ปัจจุบัน Zipmex ได้มีการใช้เงินโฆษณากับทาง PLANB ไปแล้วกว่า 160 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าเงินที่บริษัทใช้ลงทุน และเราคาดว่าไม่มีผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้ของ PLANB ด้วยสัดส่วนเม็ดเงินโฆษณาที่อาจจะหายไปจากการใช้ ads ของ Zipmex ไม่มีนัยสำคัญต่อรายได้ทั้งปีของบริษัท เราคงคำแนะนำ Outperform ด้วยราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 10 บาท

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • BDMS* (เป้าพื้นฐาน 31 บาท) แนวรับ 26.25 บาท / แนวต้าน 27.5 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 26 บาท)
  • OTO (เป้าพื้นฐาน 16.2 บาท) แนวรับ 17.3 บาท / แนวต้าน 18.0-19.4 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 16.5 บาท)
  • PTG* (เป้าพื้นฐาน 17.8 บาท) แนวรับ 13.8 บาท / แนวต้าน 14.2-14.5 บาท (Trailing stop 13.6 บาท)
  • COM7* (เป้าพื้นฐาน 52 บาท) แนวรับ 27.5 บาท / แนวต้าน 29-30 บาท (Stop loss 26 บาท)
  • BGRIM* (เป้าพื้นฐาน 41 บาท) แนวรับ 36.75 บาท / แนวต้าน 38-40 บาท (Stop loss 36 บาท)
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) แนวรับ 12.7 บาท / แนวต้าน 13.3-3.5 บาท (Stop loss 12.6 บาท)
  • BCH* (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) แนวรับ 19.9 บาท / แนวต้าน 20.6-21.0 บาท (Stop loss 19.8 บาท)
  • MAKRO (เป้าพื้นฐาน 44 บาท) แนวรับ 34 บาท / แนวต้าน 36-37 บาท (Stop loss 34 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

PTTGC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 52 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 2Q65 = 1.3 พันล้านบาท (-95% YoY, -68% QoQ) โดยกำไรที่ลดลงมาก YoY เพราะไม่มีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น GPSC* ในไตรมาสนี้ ฝ่ายวิจัยฯแนะนำเพียง “ถือ” เพราะคาด Spread PE จะอ่อนตัวลงจากกำลังการผลิตใหม่ที่จะเข้ามาในปีนี้ รวมทั้งแรงกดดันจากการขอความร่วมมือแบ่งกำไรจากโรงกลั่นให้รัฐบาล

- Advertisement -