KS Daily View 22.07.2022 > ราคาน้ำมันปรับลง หลังรัสเซีย-ยุโรปกลับมาส่งก๊าซธรรมชาติ SET วันนี้คาดแกว่งตัว 1535-1550 จุด หุ้นแนะนำ GPSC
ต่างประเทศ : ฝั่งสหรัฐเมื่อคืนทั้ง 3 ดัชนีหลักปรับขึ้นในทิศทางเดียวกัน แต่ดัชนี Nasdaq ถือว่า Outperform ที่สุดปรับขึ้น 1.4%DoD และทิศทางเป็นลักษณะแกว่งตัว Side way Up (แรงหนุนหลักมาจากหุ้นกลุ่ม Technology และ Growth Stock ที่ปรับขึ้นแรง อาทิ Tesla +9.8%DoD, Apple , Amazon , NVDIA ปรับขึ้นเฉลี่ย 1.3% DoD) และนับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ปรับขึ้นราว 5.3%wtd เทียบกับ ดัชนี S&P500 +3.5%wtd, ดัชนี Dow Jones +2.4%wtd เหตุผลที่กลุ่ม Tech ในช่วงที่ผ่านมาเริ่ม Outperform ตามที่ KS นำเสนอว่าตลาดเริ่มคาดดอกเบี้ยสหรัฐ Fed จะเริ่มปรับลงในปี 2566 เพื่อต่อสู้กับเศรษฐกิจถดถอย และรายงานผลประกอบการงวด 2Q22 ในหลายบริษัทสหรัฐออกมาดีกว่าคาด อาทิ Tesla , Netflix, J&J ฯลฯ
โดยเรายังคงมุมมองตามที่เมื่อวานได้นำเสนอว่า KS แนะนำนักลงทุนทยอยสะสม กองทุน SSF ในช่วงปลายเดือน ก.ค.-ส.ค. ถือเป็นจังหวะที่ดี เมื่อเทียบกับภาวะปกติที่นักลงทุนมักจะซื้อปลายปี โดยเน้นไปที่กองทุน SSF ที่เน้นหุ้นกลุ่ม Growth และกลุ่ม Technology ฝั่งสหรัฐ โดยแนะนำกองทุน SSF คือ 1.) K-Change-SSF มีสัดส่วนลงทุนในบริษัท Biotech และบริษัท Tech อื่นๆ อาทิ TESLA, MODERNA, TSMC 2.) กองทุน K-USA-SSF มีสัดส่วนการลงทุนใน Sector IT สูงราว 45% ถัดมากลุ่มCommunication Service 21.6% ฯลฯ ในส่วนของหุ้น Growth และหุ้น Tech ในไทย KS แนะนำกลุ่ม Tech Consult แนะนำ BBIK , BE8
ฝั่งยุโรป : ตลาดหุ้นแต่ละประเทศเมื่อคืนปิดบวกบางๆ ราว 0.3-0.5%DoD โดยประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นคือ ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% เป็น 0% เพื่อชะลอเงินเฟ้อ ทำให้เงินยูโรต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และคาดหลังจากนี้จะยังแกว่งตัว โดยปัจจัยกดดันค่าเงินยูโร และตลาดหุ้นหลักๆยังคงมาจาก 1.) ปัญหาการเมือง อาทิ อิตาลี,อังกฤษ ฯลฯ 2.) ความกังวลโอกาสเศรษฐกิจจะถดถอยจากลกระทบสงคราม KS ยังคงมุมมองตลาดหุ้นยุโรปจะยังไม่ Perform แนะนำชะลอลงทุนในหุ้นที่มีการค้าขายกับฝั่งยุโรป
ราคาพลังงาน : ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลงติดต่อกันเป็นวันที่ ปิดที่ US$103.86/bbl (-3% DoD) ถือเป็น Sentiment ลบต่อหุ้นพลังงาน อาทิ PTT, PTTEP ผลจากข่าวเมื่อวานรัสเซียได้กลับมาส่งก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปผ่านทางท่อส่ง Nord Stream 1 หลังเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงประจำปี จากก่อนหน้าตลาดกังวลว่ารัสเซียจะไม่ส่งก๊าซให้ยุโรป หากรวมความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย KS ยังคงคาดราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ผ่าน Peak ไปแล้ว โดยรวมยังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาพลังงานปรับลง คือ Anti commodity แนะนำ BGRIM, GPSC, PTG
ในประเทศ : ประเด็นที่เป็นกระแสยังคงเป็นทิศทางค่าเงินบาท (USD/THB) อ่อนค่าที่สุดในรอบ 16 ปี เมื่อคืนอ่อนค่าแตะ 36.9 บาท ล่าสุดอยู่ที่ 36.76 บาท เทียบกับต้นปี 1 ม.ค.เงินบาทอยู่ที่ 33.3 บาท หรืออ่อนค่าราว 9.6%ytd KS ยังคงกรอบการเคลื่อนไหวเงินบาทสัปดาห์นี้บริเวณ 36.30-37.1 บาท ประเมินทิศทางเงินบาทที่อ่อนเป็นผลลบต่อ Flow ต่างชาติ แต่จะบวกต่อภาคส่งออก ยังชื่นชอบหุ้นส่งออกอาหาร อาทิ ASIAN,CPF และ หุ้นท่องเที่ยว CENTEL, SHR
ประเด็นที่ให้น้ำหนักและติดตาม
1.) สัปดาห์หน้าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) 27 ก.ค.ปัจจุบันตลาดคาดจะขึ้น 75 bps โดยโอกาสความน่าจะเป็นสูงราว 72.7% หาก Fed ขึ้น 75bps ตามคาดเชื่อว่าตลาดได้ Price In ข่าวนี้ไปแล้ว ประเมินแนวรับของ SET คาด 1525 จุด แต่ถ้าขึ้น 100 bps แนวรับของ SET คาด 1472 จุด
2.) วันที่ 28 ก.ค. GDP 2Q65 ของสหรัฐ ล่าสุด Fed Atlanta เผยแบบจำลอง GDPNow ล่าสุดยังคงคาด GDP สหรัฐยังหดตัว 1.6%
3.) เจรจาลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างสหรัฐ-จีน(trade tariff) ประธานาธิบดีโจ ไบเดนวางแผนที่จะพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ ภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้ ติดตามสถานการณ์ประธานาธิบดีไบเดนติด Covid ประเมินหากเกิดขึ้น คือสหรัฐการปรับลดภาษีจากจีนคาดจะปรับเพียงบางสินค้า โดยรวมประเมินจะบวกต่อหุ้น JWD คาดธุรกิจหลักจะได้ประโยชน์หากภาษีผ่อนคลาย เช่น คลังสินค้าสินค้าทั่วไป ลานสินค้าอันตราย อาหาร ขนส่งห้องเก็บให้เช่า โดยราคาหุ้นปัจจุบันปรับลงมา 38%รับรู้ข่าวร้ายไปมากแล้ว
4.) ติดตามโหวตญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีไทย และ 10 รัฐมนตรี ในวันที่ 23 ก.ค. ตลาดคาด นายกรัฐมนตรีคาดจะผ่าน แต่ติดตามรัฐมนตรีหากมีการโหวตคว่ำ จะทำให้ต้องมีการปรับ คณะรัฐมนตรีใหม่
5.) ติดตามสถานการณ์ไทย เมื่อวานมีรายงานพบผู้ป่วย ฝีดาษลิง รายแรกที่ภูเก็ต เป็นชายชาวไนจีเรียหากแพร่กระจายในวงกว้าง ประเมินจะบวกต่อหุ้นถุงมือยาง และโรงพยาบาล
มุมมองตลาดหุ้น SET วันนี้คาด 1535-1550 จุด หุ้นแนะนำ GPSC
Top pick :
GPSC (ราคาพื้นฐาน 85.0 บาท) เป็นหุ้น Anticommodity ที่ได้ประโยชน์จากราคาพลังงาน ทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติปรับลง และคาดผ่านจุด Peak แล้วโดยเราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/2565 จะดีขึ้น QoQ หนุนจาก กกพ. ปรับเพิ่มค่า Ft เป็นครั้งที่ 2 (เดือน พ.ค.-ส.ค. 2565) เป็น 0.248 บาท/หน่วย 2) GE ระยะที่ 5 สามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. 2565 หลังการหยุดเดินเครื่อง ขณะนี้อยู่ใน กระบวนการเจรจาเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่เหลือในปี 2565 อาจอยู่ที่ 600-700 ลบ. และ มี Catalyst หนุนราคา แนวโน้ม Ft งวดก.ย.-ธ.ค.65 อาจปรับขึ้น 90-100 สตางค์ต่อหน่วย (ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่ให้ข่าวช่วงกลางเดือน มิ.ย.65 คาดจะปรับ 40 สต.) ประเมินจะบวกกับโรงไฟฟ้าประเภท SPP โดย GPSC จะได้ประโยชน์
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันศุกร์ ตัวเลขดุลการค้าของไทยเดือน มิ.ย. คาด -1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบเดือนก่อนหน้าที่ -1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเดือน มิ.ย. คาด +0.2% MoM และ +2.6% YoY ตัวเลข Retail sales ของอังกฤษเดือน มิ.ย. คาด -0.4% MoM และ -5.3% YoY ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของยูโรโซนเดือน ก.ค. คาด 51 จุด (-2.1% MoM) และตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของสหรัฐฯเดือน ก.ค. คาด 52 จุด (-1.3% MoM)