Daily Focus:Earnings and Value Play // Hold for Profit Taking

2022 SET Target 1670

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways up ตามตลาดเพื่อนบ้านโดยยังมีแรงซื้อในกลุ่มธนาคาร หลังประกาศกำไรและประชุมนักวิเคราะห์ ไม่มีความกังวลเรื่องคุณภาพหนี้ แต่ข่าวลือดีลควบรวม TRUE-DTAC ล่ม กดดันหุ้นทั้งสอง และกดดัน SET ประมาณ 2 จุด สิ้นวันดัชนีปิดบวก 6.42 จุด นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิบาง 140 ลบ. และ Long Index Futures ลดลงเป็น 7.3 พันสัญญา

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,545-1,565 จุด สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับขึ้นจํากัด รอผลการประชุม Fed 26-27 ก.ค. นี้ รวมถึงผลชประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั้งในไทยและต่างประเทศ ในการประชุม Fed ครั้งนี้ นักลงทุนให้นํ้าหนัก 77% ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% (นํ้าหนักลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 80%) และให้นํ้าหนักเพียง 22% ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 1.00% ในวัฏจักรดอกเบี้ยขึ้น  เชื่อว่ากลุ่มธนาคารยังหนุนตลาดได่ค่อ และคุณภาพสินทรัพย์ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ไม่น่าเป็นกังวล ตรงข้ามกับกลุ่มพลังงานต้นน้ำที่ถูกกดดันจากดอกเบี้ยขาขึ้นจะทำให้เศรษฐกิจชะลอ นอกจากนี้ วันนี้น่าจะได้แรงหนุนของกลุ่มสื่อสารหลัง TRUE-DTAC ชี้แจงว่าข่าวดีลควบรวมเป็นข่าวเท็จ เรายังคงมุมมองบวกต่อ SET Index ระยะกลาง-ยาวตามเศรษฐกิจที่เร่งตัว โดยเฉพาะการท่องเที่ยว จะเข้า High Season ใน 4Q22 หมุนค่าเงินบาทพลิกมาแข็งค่า เรายังเน้นลงทุนในหุ้น Value Play ที่ Valuation ถูกกว่าช่วงก่อน COVID-19 นอกจากหุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 2Q22 โดดเด่น คาดว่าจะ Outperform ตลาดช่วงนี้

กลยุทธ์ : เก็งกำไรงบ 2Q22 และหุ้น Value Play // ถือรอทำกำไรหลังฟื้นตัวจากแนวรับ 1,520+/- จุด

หุ้นเด่นเดือน ก.ค. : CK, CPN, GFPT, KTB, MAKRO

หุ้นเด่นวันนี้ : SHR

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 5.20 บาท  คาด 2Q22 ขาดทุนลดลงเหลือ 62 ลบ.จาก 199 ลบ.ใน 1Q21 จากรายได้ที่พื้นด้วต่อเนื่องตามสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ทยอยกลับสู่ปกติมากขึ้น หนุน ADR ปรับขึ้นดี โดยเฉพาะในอังกฤษและมัลติฟท์ที่สูงกว่าก่อน COVID-19 แล้ว 15-30% หนุน RevPar เติบโตต่อเนื่อง
  • เราคาดหวังการ Turnaround พลิกมีกำไรใน 3Q22 เป็นต้นไป ราคาหุ้นปรับลงแรงช่วงเดือนที่ผ่านมา ทำให้ Upside กว้างขึ้น และเทรด PBV 0.8 เท่า
  • แนวรับ 3.80-3.70 บาท แนวต้าน 4-4.10 บาท

Fund Flow : ศุกร์ที่ผ่านมากระแสเงินทุนไหลออกภูมิภาคเบาบาง US$285 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US5252 ล้าน และ US$25 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลออกจากอินโดนีเซีย US$25 ล้าน แค่ไหลเข้าไทย US$3.8 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดใหลออกต่อเนื่อง รอผลการประชุม FED

ประเด็นสําคัญวันนี้

(-) TRUE-DTAC ราคาหุ้นปรับลงแรงหลังมีข่าววันศุกร์ คณะอนุกรรมการฯ ไม่เห็นด้วยในการควบรวม อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวถูกปฏิเสธ โดยต้องจับตาการพิจารณาและความเห็นของบอร์ด กสทช.ใหญ่ในวันที่ 11 ส.ค. นี้ เราคาดราคาหุ้นจะถูก Overhang ต่อเนื่อง และหากไม่สามารถควบรวมได้ Downside ของราคาหุ้น TRUE-DTAC จะอยู่ที่ 3.80 บาทและ 39 บาท ส่วน ADVANC อาจมี Sentiment ลบกดดันจากประเด็นการซื้อ 3BB จาก JAS เช่นกัน แต่ยังคงเป็น Top Pick ราคาเป้าหมาย 250 บาท (Source: FSSIA) (ประธานกรรมการ/กรรมการ (มีอานาจลงนาม) ของ FINANSIA SYRUS เป็นกรรมการของ TRUE)

(+) BRI คาดกำไรสุทธิ 2Q22 +3% Q-Q, +133% Y-Y ทำ All Time High หากไม่รวมกำไรจากเซ็น JV ใหม่ 1 แห่ง กำไรปกติคาด +32% Q-Q +75% Y-Y หนุนจากยอดโอนเร่งขึ้น โมเมนตัมกำไร 3Q22-4Q22 จะไต่ระดับขึ้นทุกไตรมาสตามแผนเปิดโครงการใหม่ที่กระจุกตัวใน 2H22 คงประมาณการกำไรปกติ +89% Y-Y หุ้นเทรดบน PER 6.7 เท่า และให้ปันผล 6% คงราคาเป้าหมาย 14.20 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) CK คาดกำไร 2Q22 +205% Q-Q, +15% Y-Y จากเงินปันผล TTW บวกกับการเติบโตสูงของส่วนแบ่งกำไรจาก BEM หลังเปิดเมือง และ CKP จากฤดูน้ำ ชดเชยธุรกิจรับเหมา ชะลอจากฐานสูงใน 1Q22 ที่มีรายได้ one-time งานโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2022-2023 ถึง +821% Y-Y และ +64% Y-Y ตามลำดับ สะท้อนการปรับลดค่าไรบริษัทร่วม และปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 25 บาท ระยะสั้นมี Catalyst จากการยื่นซองสายสีส้ม 27 ก.ค.นี้ แนะนำ “ซื้อ”

(+) TTA เราคาดกำไรปกติ 2022 +57% Q-Q, +190% Y-Y สูงใกล้เคียงช่วงพีคโน 2H21 ตามดัชนี BSI ที่ +15% Q-Q, +13% Y-Y จากการยืดเยื้อของการ Lockdown ในจีนและสงครามรัสเซีย-ยูเครน ดัชนี BSI เดือน ก.ค.ปรับลงแล้ว 19% จาก 2Q22 เราปรับประมาณการกำไรปี 2022-2024 ขึ้นเป็นทรงตัวในปีนี้ และหดตัวต่อเนี่องอีก 2 ปีข้างหน้าจากสถานการณ์ Supply disruption ที่ทยอยหมดไป ปรับราคาเป้าหมายปี 2023 ขึ้นเป็น 12 แนะนำ “เก็งกำไร

(-) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 31,899.29 จุด ลดลง 137.61 จุด หรือ -0.43% จากผลประกอบการที่อ่อนแอของหุ้นกลุ่มโซเชียลมีเดียและหุ้นเทคโนโลยี การโฆษณา (AdTech)

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก หลังนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะการขาดแคลนพลังงาน

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย แกว่งตัวผสม จากนักลงทุนรอผลการประชุม Fed

(0) ค่าเงินบาท แกว่งตัวแคบ อยู่ที่บริเวณ 36.65 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับลดลง 1.65 ดอลลาร์ หรือ -1.7% ปิดที่ 94.70 ดอลลาร์/บาร์เรล จากแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงในช่วงฤดูร้อน

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 14 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ 1,727.4 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,005.87 / –

- Advertisement -