บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

Thailand Banks: NIM ฟื้นตัว ต้นทุนสินเชื่อลด หนุนกำไรต่อหุ้นครึ่งปีหลังเติบโต

หุ้นเด่น KBANK, KTB & KKP ขณะที่ SCB อาจเด่นขึ้นหลังผลประกอบการ 2Q ทําตลาดคลายกังวล

แม้ภาพรวมมหภาคจะยังคงผันผวน แต่เรายังคงมุมมองเชิงบวก และคาดกำไรจะเติบโต 16% YoY ในปี 65 แบงก์ใหญ่น่าจะได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น หุ้นเด่น ได้แก่ KBANK, KTB และ KKP ขณะที่ประมาณการกำไรสุทธิของ KKP และ KTB มีอัพไซด์เนื่องจากกำไรในครึ่งปีแรกแตะระดับ 60% ของประมาณการทั้งปีของเรา ส่วน SCB น่าจะดีดแรงในระยะอันใกล้เนื่องจากผลประกอบการ 2Q ออกมาดี ช่วยตลาดคลายกังวล SCB มี valuation น่าสนใจ บน PER ปี 65 ที่ 8 เท่า ใกล้เคียงกับ PER ของ KBANK หลังจากที่ราคาหุ้นร่วง 24% YTD

2Q65 โชว์กำไรดีและคุณภาพสินทรัพย์มีเสถียรภาพ

กำไรของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 22% YoY (-2% QoQ) เป็น 4.35 หมื่นล้านบาท เนื่องจากต้นทุนสินเชื่อที่ลดลงในไตรมาส 2/65 โดย KKP และ KTB เติบโตอย่างน่าประทับใจที่ 50% และ 39% YoY ตามลำดับ โดยสินเชื่อของ KKP โตแกร่ง ขณะที่ KTB ต้นทุนสินเชื่อลดลง PPoP ของทั้งกลุ่มแบงก์ทรงตัว YoY ในขณะที่ KKP และ SCB มีการเติบโต 9% และ 8% YoY จากการเติบโตของ NII ที่แข็งแกร่ง สินเชื่อเติบโต 5.5% YoY และ 1.2% QoQ อัตราส่วน NPL ลดลง 4bps QoQ มาอยู่ที่ 3.96% นำโดย SCB, KTB และ TTB โดยต้นทุนสินเชื่อลดลงเหลือ 1.3% ในไตรมาส 2/65 จาก 1.6% ในไตรมาส 2/64

NIM กำลังฟื้นตัว หนุนกำไรเติบโต

เราคาดว่าธนาคารจะได้รับอานิสงส์จากผลตอบแทนจากสินเชื่อและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถชดเชยต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากค่าธรรมเนียม FIDF ที่สูงขึ้นได้ เราเห็นอัพไซด์ต่อสมมติฐาน NIM ของเราในปี 66 โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ เมื่อมองไปถึงปี 66 การฟื้นตัว ของเศรษฐกิจจะนำไปสู่รายได้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนความสามารถของลูกค้าในการชำระหนี้ ส่งผลให้เราคาดว่าสินเชื่อเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้จะมีปริมาณน้อยลงและ NIM จะเพิ่มขึ้นในปีหน้า

มองเห็นโอกาสเข้าซื้อหุ้น SCB หลังประกาศผลประกอบการ 2Q65

เรามองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้น SCB หลังจากรายงานกำไรสุทธิ 2Q65 ที่ 1.0 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% YoY โดยไม่มีผลขาดทุนจากการลงทุนอย่างที่ตลาดกังวล ราคาหุ้นร่วง 24% YTD จากความกลัวของตลาดว่าจะขาดทุนจาก mark-to-market จากการลงทุน SCB10x ในทางตรงกันข้าม SCB มีกำไรจาก mark-to-market 2.7 พันล้านบาทในไตรมาส 2/65 โดย SCB เผยว่าได้จำกัดการลงทุนในเงินร่วมลงทุนที่ 110 ล้านเหรียญสหรัฐ เราคาดว่าต้นทุนสินเชื่อจะลดลง HoH ในครึ่งปีหลังเนื่องจากมีการตั้งสำรองเพิ่มเติม 2.5 พันล้านบาทใน 2Q65 การเก็บเงินสดใน 2Q65 ก็แตะระดับสูงสุดตั้งแต่เกิดโรคระบาดในปี 63

- Advertisement -