บล.พาย:

NER บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ “2Q22 อาจไม่ดีนัก แต่ 2H22 ลุ้นฟื้นแรง”

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานได้ที่ 9.10 บาท (8XPER’22E) ด้วยปัจจัยบวกจากการคาดหวังถึงการฟื้นตัวในช่วง 2H22 จากการคลายล็อคดาวน์ของจีน และมีโอกาศได้รับรู้คำสั่งซื้อเพิ่มหลังทางบริดจสโตนมีการย้ายโรงงานผลิตล้อเครื่องบินมายังประเทศไทย แต่ระยะสั้นอาจจะถูกกดดันจากผลประกอบการงวด 2Q22 ที่ไม่ค่อยดีนักจากการที่คู่ค้าหลักอย่างจีนมีการล๊อคดาวน์ในหลายๆ เมือง โดยเราคาดกำไรที่ 430 ลบ. (-2%YoY, -8%QoQ)

2Q22 จีนล็อคดาวน์ ตู้ยังขาดทำให้ปริมาณขายไม่โต

  • เราคาดว่ากำไรงวด 2Q22 จะอยู่ที่ 430 ลบ. (-2%YoY, -8%QoQ) การปรับตัวลดลงสาเหตุหลักมาจากปริมาณขายที่ได้รับผลกระทบจากการล็อคดาวน์ในประเทศจีน และปัญหาการขาดแคลนตู้ทำให้ปริมาณขายมีเพียง 95,000 ตัน ใกล้เคียงกับ 1Q22 แต่ลดลง 18%YoY อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ 10%YoY, 3%QoQ ทำให้รายได้อยู่ที่ 5,677 ลบ. (-10%YoY,+2%QoQ)
  • กำไรขั้นต้นคาดไว้ที่ 13.5% ใกล้เคียงกับ 1Q22 แต่ดีขึ้นจาก 12.6% ใน 2Q21 เพราะได้รับผลดีจากราคาขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดไว้ที่ 216 ลบ. (-12%YoY, +3%QoQ)
  • แม้ปริมาณขายในช่วง 1H22 ที่ทำได้ 190,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนเพียง 40% ของเป้าทั้งปีที่บริษัทคาดไว้ที่ระดับ 480,000-500,000 ตัน แต่ด้วยแนวโน้มความต้องการยางจากจีนที่ยังมีอยู่มาก เห็นได้จากยอดผลิตรถยนต์เดือน มิ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงภายหลังคลายล็อคดาวน์ ทำให้มีโอกาสที่ในช่วง 2H22 จะเห็นการปรับเพิ่มขึ้นของปริมาณขายได้ รวมถึงในอนาคตที่บริดจสโตนย้ายฐานการผลิตโรงงานยางล้อเครื่องบินมาไทยจะทำให้ NER มีโอกาสได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มอีกทาง

คงประมาณการเดิมไปก่อน

  • หากผลประกอบการออกมาตามที่เราคาดไว้จะทำให้กำไรปกติในช่วง 1H22 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 41% ของกำไรทั้งปีที่เราประเมินไว้ที่ 2,102 ลบ. (+14%YoY) อย่างไรก็ตาม เราอาจจะมีการปรับประมาณการภายหลังการประกาศผลประกอบการช่วงต้นเดือน ส.ค. อีกครั้ง
  • ทั้งนี้เรายังแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาก  ทำให้อัตราผลตอบเงินปันผลสูงถึง 7% แล้ว อีกทั้งยังซื้อขายที่ระดับ PER เพียง 5 เท่า

จีนหลังคลายล็อคดาวน์การผลิตรถยนต์ฟื้นแรง

ตัวเลขการผลิตรถยนต์ที่จีนระหว่างเดือน มี.ค.-พ.ค. จะเห็นว่ามีการปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนเป็นผลมาจากการล็อคดาวน์ เพื่อควบคุมโควิดในหลายๆ เมืองหลักในประเทศ อย่างไรก็ตาม หลังจากการคลายล็อคดาวน์ในช่วงเดือน มิ.ย. เห็นได้ว่าตัวเลขการผลิตรถยนต์ในจีนกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้เรามองว่าในช่วง 2H22 มีโอกาสที่จะเห็นคำสั่งซื้อกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง

อุตสาหกรรมยางล้อเครื่องบินเติบโตต่อเนื่อง

  • ขนาดของตลาดยางล้อเครื่องบินในโลก ณ สิ้นปี 21 อยู่ที่ประมาณ 2.59 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ต่ำกว่าอุตสาหกรรมยางล้อรถยนต์ที่มีมูลค่าตลาดกว่า 100 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) แต่มีการคาดหมายถึงการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ในช่วงปี 22-28 ประมาณ 3.2%YoY ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินหลังจากชะลอไปในช่วงโควิด ทำให้การที่ทางบริดจสโตนที่มีการย้ายฐานการผลิตโรงงานล้อเครื่องบินมายังประเทศไทย ทาง NER จึงมีโอกาสที่จะได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มอีกทางด้วย

แผ่นยางรองนอนวัวรอไปเป็นช่วง 3Q22 แต่ปีนี้มูลค่ายังไม่มากนัก

  • สำหรับธุรกิจแผ่นยางรองนอนวัวที่มีความล่าช้ามาจากช่วงต้นปี คาดว่าจะเริ่มเห็นรายได้ในช่วง 3Q22 เป็นต้นไปแต่ยังมีมูลค่าไม่มากนัก (คาดไว้เพียงหลัก 200 ลบ. หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1% ของเป้ารายได้ในปีนี้) แต่จะเป็นอีก 1 ธุรกิจสำคัญในการขยายไปยังธุรกิจปลายน้ำของอุตสาหกรรมนี้ โดย NER ตั้งเป้ารายได้ไปถึงระดับ 1,700 ลบ. ภายในปี 26

Revenue breakdown

โครงสร้างรายได้ของ NER มาจากสินค้าหลัก 2 กลุ่ม ได้แก่ 1 สินค้ากลุ่มยางแผ่นรมควัน และ 2 สินค้ากลุ่มยางแท่ง ขณะที่ลูกค้าหลักมาจากจีนและสิงคโปร์ แต่ล่าสุดเริ่มมีอินเดียเพิ่มเข้ามาอีก 1 ประเทศ

- Advertisement -