บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Upgrade)

TP upside (downside) +25.9%

Close Jul 26, 2022 Price (THB) 16.60

12M Target (THB) 20.90

Previous Target (THB) 20.90

What’s new?

  • คาดกำไรสุทธิ 2Q65 ทรงตัว QoQ แต่โตสูง YoY อยู่ที่ 161 ลบ. (+0.27% QoQ, +59.46% YoY) โดยได้แรงหนุนหลักจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงการรับรู้รายได้ค่าเช่าจาก COM7 และ Shopee
  • แนวโน้ม 3Q65 ยังโตเด่น YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อน เนื่องจากมีการ Lockdown และสามารถโตต่อเนื่องใน 4Q65 จากกำลังซื้อในเมืองท่องเที่ยวที่เร่งขึ้น และการเปิดสาขาใหม่ 1 สาขาในช่วงปลายไตรมาส

Our view

  • เราคาดกำไรทั้งปีนี้ที่ 586 ล้านบาท เติบโต 29.21% YoY กลับมาสู่ระดับก่อน COVID-19 ระบาด แต่ยังต้องติดตามภาวะเงินเฟ้อในอย่างใกล้ชิด ว่าจะกดดันกำลังซื้อมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะ 3Q65 ที่เป็นจุด Peak ของเงินเฟ้อ
  • เราปรับคำแนะนำขึ้นจาก “เก็งกำไร เป็น “ซื้อ” เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลงจน Upside สูงขึ้นเป็น 26% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมที่ 20.90 บาท/หุ้น อิง PER ที่ 18 เท่า

ILM คาดกำไร 2Q65 โตเด่น YoY สวนทางกลุ่ม

คาดผลประกอบการ 2Q65 ฟื้นแรง YoY ตัวต่อเนื่อง

คาดกำไรสุทธิ 2Q65 ทรงตัว QoQ แต่โตสูง YoY อยู่ที่ 161 ล้านบาท (+0.27 % QoQ,+59.46 % YoY) โดยคาดรายได้รวมที่ 2,136 ล้านบาท (+0.70% QoQ, +5.04%YoY) รายได้จากการขายสินค้าขยายตัวดี YoY ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สะท้อนผ่าน SSSG (ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า) +13.00%YoY เร่งตัวขึ้นจาก 1Q65 ที่ +11.00% YoY ขณะที่รายได้จากค่าเช่าคาดโต 26% YoY เนื่องจากไม่มีส่วนลดค่าเช่า และรับรู้รายได้ค่าเช่าของ COM7 และ Shopee เต็มไตรมาส ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 46.30% จาก 44.00% ใน 2Q64 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเลิกขายสินค้าอัตรากำไรต่ำอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า และจากการปรับขึ้นราคาสินค้าตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ SG&A/Sales เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 36.00% จาก 2Q21 ที่35.67% สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายพนักงาน, ค่าน้ำมัน, และค่าไฟที่ปรับตัวขึ้น

แนวโน้มผลประกอบการ 2H65 ยังโตเด่น YoY

แนวโน้ม 3Q65 คาดผลประกอบการโตเด่น YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้าที่มีมาตรการ Lockdown เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด Covid-19 สายพันธุ์เดลต้า และฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ที่ได้แรงหนุนจากการส่งออกและท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี การเติบโตแบบ QoQ แม้จะเกิดขึ้นได้ เพราะได้แรงหนุนจากการปรับราคาสินค้าขึ้น แต่ในแง่ของกำลังซื้อยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม เนื่องจากใน 3Q65 จะเป็นจุด Peak ของเงินเฟ้อ (อ้างอิงจากธปท.) ส่วนแนวโน้ม 4Q65 คาดผลประกอบการจะเติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากเป็นช่วง High Season รวมทั้งคาดได้แรงหนุนจากการเปิดประเทศ ที่ช่วยหนุนกำลังซื้อในจังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ราว 29% ของรายได้รวม รวมทั้งในช่วงปลายไตรมาสจะมีการเปิดสาขาใหม่ 1 สาขา ที่จะช่วยหนุนรายได้เพิ่มเติม

เติบโตได้ดีท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ และ Valuation ไม่แพง

หากกำไร 2Q65 ออกมาตามที่เราคาด จะคิดเป็น 54.94% ของกำไรปี 2565 ซึ่งเราคาดอยู่ที่ 586 ล้านบาท เติบโต 29.21% กลับมาสู่ระดับก่อน COVID-19 ระบาด หนุนจาก 1) การฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น 2) การร่วมมือกับ COM7 ทำให้สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภคได้ครบวงจรมากขึ้น 3) การควบคุมค่าใช้จ่าย โดยการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และการใช้พื้นที่ว่างให้เกิดประโยชน์มากขึ้น

ทั้งนี้ เราปรับคำแนะนำขึ้นจาก “เก็งกำไร” เป็น “ซื้อ” เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลงจน Upside กลับมาเปิดกว้างเป็น 26% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมของเราที่ 20.90 บาท/หุ้น อิง PER ที่ 18 เท่า PER2565 ต่ำเพียง 16.65 เท่า ถูกสุดในกลุ่ม และให้ปันผล 3.5%-3.9% ต่อปี

- Advertisement -