สรุปภาวะตลาด

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง ตามการปรับตัวขึ้นของหุ้น DELTA ที่รายงานงบออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดมาก โดย DELTA ส่งผลต่อดัชนีราว 411 จุด ส่วนหุ้นกลุ่มอื่นที่ปรับตัวนำดัชนี เช่น กลุ่มพลังงาน ขนส่ง และกลุ่มอาหาร นักลงทุนติดตามการประชุมเฟด ประกอบกับเข้าสู่ช่วงหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,576.41 จุด +23.23 จุด +1.50% มูลค่าการซื้อขาย 59,390 ลบ. ต่างชาติ +2,407.34 ลบ. TFEX -927 สัญญา ตราสารหนี้ -759.82 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 315.50 จุด +0.97% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์บวก 3% โดยได้แรง หนุนจากการคาดการณ์ผลประกอบการที่สดใสของบริษัทแอปเปิลและบริษัทแอมะซอน.คอม ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นรายเดือนเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 2.2 ดอลลาร์ +2.3% ปิดที่ 98.62 ดอลลาร์/บาร์เรล และในรอบสัปดาห์ +4.1% เดือนก.ค. -6.8% จากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของ กลุ่มโอเปกพลัส ซึ่งรวมถึงซาอุดีอาระเบียและรัสเซียในวันที่ 3 ส.ค. ซึ่งคาดกันว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะไม่เพิ่มการผลิตน้ำมันอย่างที่สหรัฐคาดหวังไว้

+ มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.5 ในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.5 จุดจากเดือนมิ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 51.1 กังวลเรื่องปัจจัยในต่างประเทศลดลง

+ สรท. เปิดเผยถึงแนวโน้มการส่งออกไทยในปี 2565 ว่ามีแนวโน้มที่ดีมาก โดยไตรมาส 3/2565 คาดว่าจะ ขยายตัวได้ 5% เป็นอย่างต่ำ เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาก รวมทั้งกำลังซื้อสินค้าอาหารในตลาดโลกเพิ่มมากขึ้นจากปัญหาขาดแคลนอาหารจากภาวะสงคราม

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 2,108 ราย มีผู้เสียชีวิต 19 ราย รักษาหาย 2,540 ราย

ปัจจัยลบ –

– สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) +6.8%YoY ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นมาก ที่สุดในรอบกว่า 40 ปี +1%MoM ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2524 ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ FED ให้ความสำคัญ +4.8%YoY +0.6%MoM ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ของตลาด

– ยุโรป เปิดเผยตัวเลข CPI เดือน ก.ค. อยู่ที่ระดับ 8.9%YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 8.6%

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังมีรายงานว่า GDP ของสหรัฐหดตัวลงติดต่อกัน 2 ไตรมาส ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,570-1,590 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • กนง.มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งปีหลัง + หุ้นแบงก์ได้ประโยชน์จากธปท. เลิกเพดานจ่ายปันผล และทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น เราชอบแบงก์ใหญ่ KBANK BBL KTB TISCO
  • ค่า Ft ขึ้นขณะที่ต้นทุนพลังงานปรับตัวลง : GPSC BGRIM GULF .
  • กังวลโควิด-19 ระลอกใหม่ + สธ. เตรียมยกระดับฝีดาษลิง โรคติดต่อร้ายแรง : BH BDMS CHG BCH PRINC WPH PR9 .
  • โครงการคนละครึ่งเฟส 5 : TNP KK BJC MAKRO CBG OSP TKN ICHI SAPPE
  • ลดภาษีประจำปีรถ EV ระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียน : EA GPSC FORTH DELTA PIMO

หุ้นรายงานพิเศษ

AUCT – Bloomberg Consensus 12.00 บาท

“คาดผลประกอบ 2Q65 เป็นจุดต่ำสุด ก่อนพลิกเติบโตดีตั้งแต่ 2H65 เป็นต้นไป”

  • บริษัทรายงานกำไรงวด 1Q65 เท่ากับ 45.2 ลบ. -35%YoY -44%QoQ โดยมีรายได้เท่ากับ 208.1 ลบ. -12%YoY -13%QoQ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ประกอบกับความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ทำให้จำนวนรถยึดเข้าสู่การประมูลลดลง ขณะที่ %GPM ปรับลดลงสู่ 47.2% (1Q64 = 55%, 4Q65 = 56.5%) เนื่องจากรายได้ที่ลดลงทำให้เกิด Diseconomies of Scale
  • แนวโน้มผลประกอบการงวด 2Q65 คาดอ่อนตัวลง YoY และ QoQ เนื่องจากในช่วง 1Q65 บริษัทมีรายได้พิเศษจากการจัดประมูลคลื่นความถี่วิทยุของ กสทช. ขณะที่แนวโน้ม 2H65 คาดฟื้นตัวดี HoH จากปัจจัยหนุน 2 ประการ คือ 1) สถาบันการเงินเริ่มยกเลิกการพักชำระหนี้ และ 2) บริษัทปรับค่าดำเนินการรถยนต์ 4 ล้อเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 บาท จาก 9,000 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.65 เป็นต้นไป
  • ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการงวด 2Q65 เป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ ก่อนพลิกเติบโตดี ตั้งแต่ 2H65 เป็นต้นไป ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลง 22%YTD สะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอไปแล้ว ประกอบกับปัจจุบัน P/E ซื้อขายที่ระดับ 19x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ซึ่งอยู่ที่ระดับ 23x โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรและราคาเหมาะสมปี 65 ราว 280 ลบ. +8%YoY และ 12 บาท อัพไซด์กว่า 47% เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) NRF (Bloomberg consensus – บาท) จ่อเดินเครื่องโรงงานอาหารสัตว์เลี้ยง วันที่ 8 สิงหาคมนี้ เผยมีออเดอร์จากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศยาวถึงปี 2566 ชูตลาดเติบโตสูง ธุรกิจมีมาร์จิ้นกว่า 30% จ่อขยายกำลังการผลิตเพิ่ม รายได้ปีนี้เติบโต 50% ระบุโรงงานแพลนต์-เบส ที่ร่วมกับ PTT คาดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในครึ่งปีแรก 2566 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PTTEP (Bloomberg consensus 175.00 บาท) รายงานกําไร 2Q65 ที่ 20,600 ลบ. ดีกว่าที่ตลาดคาด 3% เติบโต 189%YoY และ 96%QoQ โดยได้แรงหนุนจากราคาขายเฉลี่ยที่ปรับตัวขึ้น 8% สู่ 55.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลตามราคาน้ำมันและราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ปริมาณการผลิตปรับตัวขึ้น 9% สู่ 4.65 แสนบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นสู่ 28.8 $/bbl เนื่องจากการเริ่มดำเนินโครงการเอราวัณมีต้นทุนสูงกว่าที่คาดไว้ ขณะที่อัตราภาษีปรับตัวขึ้นจาก 47% สู่ 50% ตามราคาจำหน่ายที่ปรับตัวขึ้น นอกจากนี้มีผลขาดทุนจากป้องกันความเสี่ยงราว 1.4 พันลบ. โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามราคาขายสามารถชดเชยต้นทุนเพิ่มขึ้นได้

    • ความเห็น เรามีมุมมอง Neutral ต่อ PTTEP แม้ว่าผลประกอบการจะทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่องตามราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นจากต้นปี 33% และราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเพียง 30% แต่ดัชนีปรับตัวลง 6% ทําให้หากราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลง PTTEP จะเป็นเป้าหมายในการขายทำกำไร เราจึงแนะนำเพียง “ถือ”

(+) EKH (Bloomberg consensus 8.43 บาท) ยอดโควิด-19 เดือนก.ค. 65 พุ่ง ดันอัตราครองเตียงเต็ม 100% ด้านคนไข้ทั่วไปยังเติบโตได้ดี ส่งซิกไตรมาส 3/2565 เข้าไฮซีซัน เล็งกลางเดือนสิงหาคม 2565 ศูนย์ IVF ยอดคนจีนกระเตื้องหลังไทยเปิดประเทศท่องเที่ยว เตรียมตัดริบบิ้นเปิด รพ.คูน ขนาด 30 เตียง มั่นใจรายได้ปี 2565 เติบโตไม่น้อยกว่า 10-15% จากฐานปี 62 งบปกติ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) OR (Bloomberg consensus 27.25 บาท) เข้าลงทุน Traveloka หนึ่งในผู้นำแพลตฟอร์ม ออนไลน์ด้านการจองบริการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านบริษัท PTTOR International Holdings (Singapore) Pte. Ltd. (“SGHoldCo”) รุกเข้าสู่ธุรกิจการท่องเที่ยว ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ครบวงจร (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 10 ส.ค. ประชุมกนง. ครั้งที่ 4/65

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 1 ส.ค. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.จากไฉซิน

อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล

สหรัฐ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาค การผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.จากเอสแอนด์พี โก ลบอล ดัชนีภาคบริการเดือนก.ค.จากสถาบัน จัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) การใช้จ่าย ด้านการก่อสร้างเดือนมิ.ย.

  • 2 ส.ค. สหรัฐ รายงานตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน และอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมิ.ย.
  • 3 ส.ค. โอเปกพลัสประชุมกำหนดนโยบายการผลิต

จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ค.จากไฉซิน

 

- Advertisement -