บล.บัวหลวง:

PTTEP – กำไรไตรมาส 2/65 สูงกว่าคาด; คาดกำไรเติบโตต่อเนื่อง

กําไรสูงกว่าที่เราคาด

PTTEP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่ 20,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189% YOY และ 96% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ กําไรหลักจะอยู่ที่ 22,224 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 99% YoY และ 18% QoQ ซึ่งสูงกว่าที่เราคาด 16% เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยสูงกว่าคาดและต้นทุนต่อหน่วยต่ำกว่าคาด (แต่เป็นไปตามที่ตลาดคาด) PTTEP ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับครึ่งแรกของปี 2565 ที่ 4.25 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลขั้นต้นที่ 2.6% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 15 ส.ค. และจ่ายปันผลในวันที่ 26 ส.ค.)

ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ

การขาดทุนสุทธิจากรายการพิเศษอยู่ที่ 47 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยหลักมาจากขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ สําหรับในด้านการดำเนินงาน ปัจจัยหนุนการเติบโตของก่าไรหลัก ได้แก่ 1) ปริมาณขายปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ และ 2) ราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยที่สูงขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

ปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยอยู่ที่ 4.65 แสนบาร์เรล/วัน ในไตรมาส 2/65 เพิ่มขึ้น 5% YoY และ 9% QoQ (หนุนจากการรับรู้ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากโครงการอาทิตย์, โครงการ Block-H ประเทศมาเลเซีย, และโครงการ Block-61 จากประเทศโอมาน และการรับรู้ปริมาณขายจากโครงการ G1 [เอราวัณ] PSC มีผลเดือน เม.ย.) ราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยในไตรมาสนี้อยู่ ที่ 55.6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 32% YoY และ 8% QoQ (หนุนจาก ราคาขายก๊าซและน้ำมันดิบที่สูงขึ้น) ต้นทุนต่อหน่วยอยู่ที่ 28.8 เหรียญ สหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 6% YoY และ 8% QoQ (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน [โดยหลักมาจากโครงการ G1], คาจ่ายค่านการสารวจ, ค่าใช้จ่ายทั่วไป และการบริหาร, และค่าภาคหลวงที่เพิ่มขึ้น)

แนวโน้ม

กําไรหลักไตรมาส 3/65 ของ PTTEP มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ หนุนจากปริมาณขายปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้น และราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยที่สูงขึ้น เราคาดปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยจะอยู่ที่ 4.81 แสนบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 15% YoY และ 3% QoQ (การรับรู้ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากโครงการอาทิตย์, โครงการ Block-H ประเทศมาเลเซีย, และโครงการ Block-61 จากประเทศโอมาน และการรับรู้ปริมาณขายจากโครงการ G1 [เอราวัณ]) เราคาดว่าราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยจะปรับตัวขึ้น YoY และ QoQ (ราคาขายก๊าซและน้ำมันดิบที่สูงขึ้น) ต้นทุนต่อหน่วยคาดว่าจะทรงตัวทั้ง YoY และ QoQ (หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย) อยู่ที่ราว 29-30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน [โดยหลักมาจากโครงการ G1] และค่าภาคหลวงที่เพิ่มขึ้น)

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

กําไรสุทธิ 6 เดือนแรกของปีคิดเป็น 45% ของประมาณการก่าไรสุทธิปี 2565 ของเราที่ 69,017 ล้านบาท โดยเรายังคงไว้ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เราคาดกําไรไตรมาส 3/65 จะเพิ่มขึ้น QoQ ดังที่กล่าวข้างต้น

คำแนะนำ

กําไรหลักที่มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 3/65 และทั้งปี 2565 น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น PTTEP ได้ต่อไป มูลค่าหุ้นในปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยซื้อขายอยู่ที่ PBV ณ สิ้นปี 2565 ที่ 1.4 เท่า (ต่ำ กว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 2.0 เท่า อยู่ 0.6 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีในปี 2565 ที่ 5.3% (เทียบกับ 2.8% โดยเฉลี่ยสําหรับตลาดหลักทรัพย์) ซื้อ!

PTTEP – ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์

What’s new?

ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมายืนยันมุมมองเชิงบวกของเราต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานในระยะสั้นและการเติบโตในระยะยาวของบริษัท

Highlights:

  • ผลการดำเนินงาน 3Q22-4Q22 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ หนุนโดยปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นและราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น
  • สำหรับโครงการเอราวัณ บริษัทคาดว่าปริมาณการผลิตก๊าซจะอยู่ที่ประมาณ 200-250 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันในปี 2022 และเพิ่มขึ้นเป็น 300-500 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันในปี 2023 และเป็น 500-800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันในปี 2024 (คาดผลิตได้ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันตามสัญญา PSC ในเดือน เม.ย. 2024)
  • ในส่วนของโครงการยาดานา (ประเทศพม่า) บริษัทได้เข้าเป็นผู้ดำเนินการเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา และคาดว่าจะสามารถรักษาระดับการผลิตที่ราว 700-800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันได้ตามเดิม
  • สำหรับโครงการอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาเลเซียและ UAE ยังคงมีความคืบหน้าตามแผน ในขณะที่โครงการ LNG ในโมซัมบิค ปัจจุบัน TOTAL (ผู้ถือหุ้นหลัก) อยู่ระหว่างการทบทวนแผนการดำเนินงานและคาดว่าจะเห็นความชัดเจนใน 4Q22 ทั้งนี้ PTTEP ได้ตั้งสำรองค่าเผื่อการด้อยค่าสินทรัพย์ของโครงการดังกล่าวไปแล้วเมื่อ 4Q21 และคาดว่าจะยัง ไม่ต้องตั้งสำรองเพิ่ม)
  • สำหรับแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว นอกจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในธุรกิจหลัก บริษัทเร่งการลงทุนในธุรกิจ carbon capture and utilization/storage [CCU/CCS) (คาดว่าธุรกิจ CCS จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2027) รวมทั้งการขยายธุรกิจในส่วนของ ARV และแสวงหาโอกาสในการลงทุนในธุรกิจใหม่ อาทิ ธุรกิจไฟฟ้า (renewable), ธุรกิจ Hydrogen

View From Fundamental:

การเติบโตของกำไรหลักที่แข็งแกร่งต่อเนื่องตลอดปี 2022 น่าจะหนุนให้ราคาหุ้น PTTEP ปรับตัวขึ้น มูลค่าหุ้นปัจจุบันยังคงน่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2022 อยู่ที่ 1.4 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 2.0 เท่าอยู่ 0.6 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีในปี 2022 ที่ 5.3% (เทียบกับ 2.8% ของ SET) เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” (ราคาเป้าหมาย 190 บาท)

- Advertisement -