บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +35.0%

Close Jul 27, 2022 Price (THB) 3.74

12M Target (THB) 5.05

Previous Target (THB) 4.84

What’s new?

  • การส่งออกมอเตอร์ที่ต่อเนื่องใน 2Q65 ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง หนุนกำไร 2Q65 เติบโต 3.2%QoQ และ 37.5%YoY
  • ภาพรวมทั้งปีมี upside risk ใหม่จากคำสั่งซื้อของลูกค้าในออสเตรเลีย ซึ่งยังไม่รวมในประมาณการ คิดเป็น upside ต่อประมาณการยอดขายปี 2565 และ 2566 ราว 13% และ 22% ตามลำดับ

Our view

  • เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ PIMO จากการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดกำไรปกติปี 2565 ที่ 139 ลบ. (+36.1%YoY) .
  • เรานำประเด็นด้าน ESG มาปรับใช้ในการประเมินราคาเหมาะสม โดยมีการปรับ Multiple ขึ้น 2% ได้ Target PER ที่ 25.1 เท่า (Avg.) ทั้งนี้เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายกลางปี 2566 ได้ราคาเป้าหมายที่ 5.05 บาทต่อหุ้น

PIONEER MOTOR 2Q65 เติบโต QoQ และ YoY แม้ยังไม่ใช่ High Season

2Q65 การส่งออกยังดี คาดผลประกอบการเติบโตสูง YoY

เราคาดกำไรปกติของ PIMO ใน 2Q65 ที่ 34 ลบ. (+3.2%QoQ, +37.5%YoY) เติบโตสูง YoY ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น เราคาดรายได้ 342 ลบ. (+0.9%QoQ, +45.6%YoY) แม้จะเป็น Low season หนุนจาก 1) บริษัทมีการเปิดโรงงานในช่วงวันหยุด เพื่อให้มีสินค้าส่งมอบได้ทันตามกำหนด 2) ค่าเงินบาทอ่อนค่า 3) ยอดคำสั่งซื้อที่ยังมีอยู่เต็มกำลังการผลิต ทั้งมอเตอร์ชนิด AC และ BLDC โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ สอดคล้องกับยอดการส่งออกมอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของไทยใน 2Q65 ที่ 9,837 ลบ. (+5.9%QoQ, +22.0%YoY) ขณะที่ QoQ กำไรปกติเติบโตได้เล็กน้อยจากวัตถุดิบหลักอย่างทองแดงและอลูมิเนียมซึ่งมีสัดส่วนราว 49% ของต้นทุนวัตถุดิบ ปรับตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่เดือน เม.ย. แม้ว่าราคาซิลิคอนซึ่งมีสัดส่วนราว 31% ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ทำให้เราคาดว่า GPM จะปรับตัวดีขึ้นจาก 16.2% ใน 1Q65 เป็น 18.5% ใน 2Q65 แต่ลดลงจาก 20.4% ใน 2Q64 เนื่องจากต้นทุนปรับตัวขึ้น YoY

แนวโน้มกำไร 2H65 เติบโต HoH และ YoY

เราปรับประมาณการรายได้ทั้งปี 2565 ลงเป็น 1,501 ลบ. (+51.5%YoY) เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท แต่เราปรับ GPM ทั้งปี 2565 ขึ้นจาก 18.0% เป็น 18.5% เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ทำให้ประมาณการกำไรทั้งปียังใกล้เคียงเดิมที่ 139 ลบ. (+36.1%YoY) ขณะที่ 2H65 เราคาดกำไรปกติโตเด่นที่ราว 20.2%HoH และ 51.5%YoY โดย 3Q65 เราคาดกำไรปกติเบื้องต้นจะทำจุดสูงสุดใหม่ราว 37 ลบ.+/- (+8.3%QoQ, +19.1%YoY) หนุนจาก 3 ปัจจัยคือ 1) เป็นช่วง High season ที่ต่างประเทศจะเร่งสั่งมอเตอร์ในช่วง 3Q65 2) การเข้าสู่ช่วงหน้าฝนทำให้ความต้องการใช้ปั๊มน้ำการเกษตรสูงขึ้น และ 3) บริษัทขยายกำลังการผลิตในช่วงปลาย 3Q65

ประมาณการปี 2565 และ 2566 มี Upside risk

ประมาณการปี 65 – 66 มี Upside risk จาก 1) การขายมอเตอร์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า หากเริ่มขายได้ในช่วงปลายปี 2565 จะทำให้รับรู้รายได้เต็มปีในปี 2566 คิดเป็น Upside ต่อประมาณการรายได้ปี 2566 ที่ 15-30% 2) บริษัทแจ้งว่าได้ลูกค้ารายใหม่ในออสเตรเลียสัญญาซื้อ 3 ปี มูลค่าคำสั่งซื้อปีละ 400 – 500 ลบ. และคาดว่าจะมีรายได้เข้ามาในปีนี้ราว 200 ลบ. ซึ่งทางบริษัทยังต้องรอแม่พิมพ์จากลูกค้าจึงจะสามารถผลิตและส่งไปขายได้ เราจึงยังไม่รวมในประมาณการ คิดเป็น Upside ต่อประมาณการรายได้ปี 2565 และ 2566 ราว 13% และ 22% ตามลำดับ

ปรับราคาเป้าหมายเป็นกลางปี 66 ราคาเป้าหมายใหม่ 5.05 บาท

เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 65 – 66 ไว้ที่ 139 ลบ. (+36.1%YoY) และ 181 ลบ. (+30.0%YoY) ตามลำดับ จากการเติบโตของมอเตอร์ AC และ BLDC ซึ่งยังไม่รวมโอกาสจากลูกค้าใหม่และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไว้ในประมาณการ อย่างไรก็ตาม เราปรับลดระดับ PER ในการประเมินมูลค่าลงตามภาวะตลาดจากระดับ +0.5SD เป็นเท่ากับค่าเฉลี่ย (อยู่ที่ 24.6 เท่า) และรวมพรีเมี่ยม 2% จากการมี Yuanta ESG Rating ที่ AA ได้ PER ในการประเมินมูลค่าใหม่ที่ 25.1 เท่า ได้ราคาเป้าหมายสิ้น 2Q66 ที่ 5.05 บาท มี Upside gain 35.0% ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER65 เพียง 21.3 เท่า คงคำแนะนำ “ซื้อ”

- Advertisement -