บล.เอเซีย พลัส:

กลุ่มพลังงาน: นํ้ามันปิโตรเลียมและโรงกลั่น

ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยวันที่ 25 – 29 ก.ค. 2565 เท่ากับ 102.71 เหรียญ/บาร์เรล ปรับตัวลดลง 0.6%wow ขณะที่ค่าการกลั่น (อ้างอิงตลาดสิงคโปร์ Bloomberg) เฉลี่ยวันที่ 25 – 28 ก.ค. 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 20.60 จาก 17.87 เหรียญ/บาร์เรล ในสัปดาห์ก่อนหน้า

ราคาน้ำมันดิบ Dubai, และ Nymex, เฉลี่ยปิดปรับตัวลดลง 0.6%wow, 3.2%wow มาอยู่ที่ 102.71, 100.03 และ 96.80 เหรียญ/บาร์เรล ตามลำดับ ในขณะที่ Brent เฉลี่ย ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1%wow มาอยู่ที่ 105.53 เหรียญ/บาร์เรล

ราคานํ้ามันดิบ (−/+)

ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยสัปดาห์ล่าสุดปิดปรับตัวลดลง 0.6%wow หลังจากสหรัฐฯ เตรียมระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองอีก 20 ล้านบาร์เรล เพื่อสกัดการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน อีกทั้งยังมีความกังวลด้านเศรษฐกิจจะชะลอตัว  หลังมีรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเดือน ก.ค. ลดลง 2.7 จุด สู่ระดับ 95.7 ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกัน เป็นเดือนที่ 3 และประมาณการ GDP สหรัฐฯงวด 2Q65 หดตัว 0.9% หลังจากหดตัว 1.6%ใน 1Q65 นอกจากนี้ IMF ยังปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 65-66 ลง 0.4% และ 0.7% จากเดิม ตามลำดับ โดยคาดในปี 65 จะขยายตัวเพียง 3.2% ก่อนที่จะชะลอตัว 2.9% ในปี 66 อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันยังมีแรงหนุนจากคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันจากรัสเซียจะลดลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ตามคำขู่ของรัสเซียว่าจะไม่ส่งน้ำมันให้แก่ประเทศที่จำกัดราคาน้ำมันของตน รวมถึงยุโรปจะกลับมาใช้น้ำมันมากขึ้น หลังจากรัสเซียลดการส่งก๊าซผ่านท่อ Nord Stream 1 นอกจากนี้ยังมีรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเพียง 4.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 8 แสนบาร์เรล

ค่าการกลั่นระยะสั้น (+)

ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์เฉลี่ยวันที่ 25-28 กค. 2565 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 20.60 จาก 17.87 เหรียญ/บาร์เรลในสัปดาห์ก่อนหน้า หนุนจากราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับกับราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยราคาเฉลี่ยน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.96 มาอยู่ที่ 115.31 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ดีเซลลดลง 0.52 มาอยู่ที่ 130.27 เหรียญ/บาร์เรล จากความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปในภูมิภาคเอเซียที่ยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่ยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง

คําแนะนําการลงทุน

สำหรับมุมมองราคาน้ำมันระยะยาว ฝ่ายวิจัยกำหนดสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2565 อยู่ที่ 100 เหรียญ/บาร์เรล, ปี 2566 อยู่ที่ 90 เหรียญ/บาร์เรล, และระยะยาวตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไปอยู่ที่ 75 เหรียญ/บาร์เรล ทั้งนี้การดีดตัวของราคาน้ำมันที่มีนัยฯ เกิน 100 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ถูกขับเคลื่อนหลักมาจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งคาดยังมีความยืดเยื้อต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ระยะยาวคาดแนวโน้มราคาน้ำมัน จะเริ่มปรับตัวลดลงเข้าสู่ demand และ supply ที่แท้จริง ซึ่งภายใต้สมมติฐานดังกล่าว มูลค่าพื้นฐานของ PTTEP อยู่ที่ 176 บาท/หุ้น และ PTT อยู่ที่ 52 บาท/หุ้น แนะนำหาจังหวะ trading ตามทิศทางราคาน้ำมัน

ในส่วนของค่าการกลั่นนั้น ภาพรวมในปี 2565 ภายใต้สมมติฐานใหม่ คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยในปี 2564 มาอยู่ราว 15 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล จากเดิมคาดที่จะอยู่ราว 4.5 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ตามสถานการณ์ค่าการกลั่นที่อยู่ในภาวะผิดปกติจากเหตุการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งนำไปสู่การ sanction พลังงานเชื้อเพลิงของกลุ่มทวีปยุโรปที่มีต่อรัสเซีย ทำให้ตลาดมีความกังวล supply น้ำมันทั้งน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปจะหายไปจากตลาด รวมถึงสถานการณ์โควิดที่ผ่อนคลายลง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยเพิ่มขึ้น การเดินทางค่อยๆ กลับมา  โดยฝ่ายวิจัยยังคงมุมมองโรงกลั่นให้เล่นตามการปรับตัวของค่าการกลั่น และช่วงฤดูกาลเช่นเดิม ซึ่งปกติแล้วค่าการกลั่นจะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 4 ยาวต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 1 ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว ก่อนที่จะค่อยๆ ปรับตัวลงในไตรมาส 2 เล็กน้อย และจะต่ำสุดในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นช่วง low season ภายใต้ไม่มี hurricane ที่รุนแรง แต่ทั้งนี้ล่าสุด กลุ่มโรงกลั่นมีประเด็นกดดันจากเรื่องการเรียกร้องให้รัฐเข้าแทรกแซงปรับลดราคาขายหน้าโรงกลั่นเพื่อช่วยลดราคาขายปลีก หากยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนน่าจะเป็นประเด็นกดดันราคาหุ้นช่วงสั้นได้

สำหรับ spread ปิโตรเคมี คาดในปี 2565 น่าจะเข้าสู่ภาวะสมดุลระหว่าง demand และ supply มากขึ้น ค่าเฉลี่ย spread ของทุกสายการผลิตรายปีอาจจะไม่แตกต่างจากปี 2564 มาก เพราะในปี 2564 ช่วง 1H64 ถือเป็นช่วงที่ดีมากของปิโตรเคมี จากการ restocking และ supply tight อีกทั้งในปี 2565 คาด Supply น่าจะทยอยเข้าสู่ตลาดมากขึ้น หลังจากสถานการณ์ COVID ผ่อนคลาย โดยฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักกลุ่มปิโตรเคมีเท่าตลาด โดยหุ้น Top pick เลือกตามช่วงเวลาและฤดูกาล โดยในช่วง 1H65 แนะนำ IVL (Buy: FV@B56)

OIL& REFINERY: นํ้าหนักเท่าตลาด

ดัชนีกลุ่ม (จุด) 24,181.89

ดัชนีตลาด (จุด) 1,576.41

- Advertisement -