บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Osotspa (OSP.BK/OSP TB)*
เพลี่ยงพล้ำนิดหน่อยจากการปรับราคาขาย
Event
ปรับประมาณการกำไรปี 2565/2566 และปรับราคาเป้าหมาย
Impact
กำไรสุทธิใน 2Q65F จะอยู่ที่ 798 ล้านบาท (+6% QoQ, -3% YoY) และกำไรใน 1H65F จะลดลง 15% กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะเป็นเพราะเงินปันผลจาก Unicharm (บันทึกในรายการรายได้อื่น) 120 ล้านบาท ในขณะที่กำไรที่ลดลง YoY จะสะท้อนถึงอัตรากำไรที่ลดลง ทั้งนี้ เราคาดว่า OSP จะบันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 40 ล้านบาท จากกิจการในเมียนมาร์ (จากขาดทุน 37 ล้านบาทใน 1Q65 และ 62 ล้านบาท ใน 2Q64)
รายได้ลดลงเพราะเสียส่วนแบ่งตลาดในประเทศ
OSP ตัดสินใจขึ้นราคาขายปลีก M150 ในสินค้าใหม่ ในขณะที่คู่แข่งยังไม่ขึ้นราคาตาม และยังปรับลดราคาขายปลีกลงไปอีก ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คู่แข่งชิงส่วนแบ่งตลาดมาได้มากขึ้น ในขณะที่ OSP เสียส่วนแบ่งตลาดในประเทศไปใน 2Q65F
คาดว่ารายได้จะลดลง 1% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 6% YoY ใน 2Q65F และเพิ่มขึ้น 8% ใน 1H65F
เราใช้สมมติฐานว่ารายได้จากยอดขายเครื่องดื่ม energy drink ในประเทศของ OSP (ประมาณ 50% ของรายได้รวม) จะลดลง 5% QoQ และ 2% YoY ในขณะที่คาดว่าธุรกิจส่งออก (เกือบ 20% ของรายได้รวม) จะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 13% YoY ใน 2Q65F และ 15% ใน 1H65F ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเติบโตในเมียนมาร์ และกัมพูชา
Margin ถูกกดดัน
ราคาก๊าซ และต้นทุนวัตถุดิบหลักที่แพงขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ในขณะที่มีการปรับขึ้นราคาขายปลีก และกำลังการผลิตใหม่ของขวดน้ำหนักเบายังไม่ได้เดินเครื่องเต็มกำลัง ดังนั้น OSP จึงเผชิญกับแรงกดดันจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เราจึงใช้สมมติฐานว่า GPM จะลดลง 60bps QoQ และ 520bps YoY ในขณะเดียวกัน เงินปันผลรายปีจาก Unicharm (จ่ายในไตรมาสที่หนึ่ง/สอง) ในปีนี้จะต่ำลงมาก โดย Unicharm จ่ายเงินปันผล >300 ล้านบาทในปี 2564 (สูงกว่าปกติ 2x) และเราคาดว่าจะจ่ายเพียง 120 ล้านบาทใน 2Q65F
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2565/2566 ลง 5%/3%
เราปรับประมาณการส่วนแบ่งกำไร โดยสะท้อนผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในปี 2565/2566 ที่ -70 ล้านบาท/ศูนย์ (จากศูนย์ +20 ล้านบาท) และรายได้จากเงินปันผลที่ลดลงเหลือปีละ 200 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อใช้ PE ที่ 33.5x ทำให้ราคาเป้าหมายปี 2565F ลดลงเหลือ 38 บาท (จากเดิมที่ 41 บาท)
Risks
ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน, ส่วนแบ่งตลาดลดลง และเสียสถานะในตลาด, margin ถูกกดดัน
