บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +42.9%

Close Aug 1, 2022 Price (THB) 16.80

12M Target (THB) 24.00

Previous Target Price 23.40

What’s new?

  • คาด BAM จะมีกำไร 2Q65 จำนวน 763 ลบ. ลดลง 3.5%YoY แต่โตเด่น 144.3%QoQ หลังรายได้จากการรับชำระหนี้ลูกหนี้ปรับโครงสร้างเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีลูกหนี้ NPL ขนาดใหญ่มาชำระบัญชี นอกจากนี้คาดยอดขาย NPA ขยับขึ้น QoQ จากการปิดการขายทรัพย์ขนาดกลาง/เล็กมากขึ้น
  • 2H65 คาดกำไรจะปรับขึ้น HoH จากการเข้าสู่ High Season และมีลูกหนี้ขนาดใหญ่บางส่วน เลื่อนการชำระเงินออกไปจาก 2Q65 หนุนให้ทั้งปีคาดจะมีกำไรสุทธิ 2,979 ลบ. โต 14.6%YoY

Our view

  • เราชอบ BAM จากแนวโน้มการฟื้นตัวของกำไรที่โดดเด่น อีกทั้งราคาหุ้นปรับลงมามากเกินไปจากความกังวลด้าน Supply หนี้เสียที่น้อยลง แต่เราพบว่าการประมูลหนี้ยังมีทิศทางขยายตัวเทียบจากปีก่อน ขณะที่ราคาหุ้นในปัจจุบันมี Upside ราว 42.9% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2565 ที่ 24 บาท (อิง PBV ที่ 1.8x และเพิ่มผลบวกจาก Yuanta ESG Rating ของ BAM ที่ระดับ AA ทำให้มีส่วนเพิ่มจาก PBV ที่ใช้ประเมินมูลค่าอีก 2%) จึงแนะนำ “ซื้อ”

BANGKOK ASSET MANAGEMENT คาดกำไรฟื้นตัวได้ดี สวนทางกับราคาหุ้นที่ปรับตัวลง

คาดกำไร 2Q65 ฟื้นเด่น 144.3%QoQ หลังมีลูกหนี้ NPL รายใหญ่ชำระคืนหนี้

เราคาด BAM จะมีกำไรสุทธิ 2Q65 จำนวน 763 ลบ. ลดลง 3.5%YoY จากฐานที่สูง เพราะมีการรับรู้กำไรจากการขาย NPA ก้อนใหญ่ แต่คาดจะโตเด่น 144.30 โดยมีประเด็นบวกหลักจาก 1) รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิคาดขยับขึ้น 3.2%QoQ หลังลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้มีความสามารถในการชำระคืนเงินมากขึ้น ในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากการเปิดเมืองเปิดประเทศ รวมถึงบริษัทมีการทยอยซื้อหนี้ NPL ใหม่ๆ เข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่อง และ 2) คาดกำไรที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยปรับขึ้นเด่น 59.5%QoQ หลังมีลูกหนี้ NPL รายใหญ่มูลหนี้ระดับ 200-300 ลบ. เข้ามาเจรจาชำระคืนหนี้ รวมถึงการประมูลขายหนี้ NPL ผ่านกรมบังคับคดีที่เพิ่มขึ้น ทำให้กำไรจากขายลูกหนี้ NPL เพิ่มขึ้นถึง 73.8%QoQ นอกจากนี้คาดกำไรจากการขาย NPA จะปรับตัวดีขึ้น 40.8%QoQ หลังมีการขายทรัพย์ขนาดเล็กและขนาดกลางมากขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานแม้คาดปรับขึ้น 8.7%QoQ ตามจำนวนธุรกรรมการขาย NPL และ NPA ที่เพิ่มขึ้น แต่คาดยังอยู่ ในระดับที่บริหารจัดการได้ ทำให้คาด Cost to Income Ratio จะลดลงจาก 29.5% ใน 1Q65 เหลือ 23.9%

2H65 คาดโต HoH เพราะเป็น High Season และบริษัทเพิ่มกิจกรรมทางการตลาด

หากเป็นไปตามคาด กำไรสุทธิ 1H65 จะคิดเป็น 32.8% ของประมาณการทั้งปี และเรายังคงประมาณการเดิม โดยคาด 2H65 บริษัทจะมีการรับรู้รายได้และกำไรจากการบริหารหนี้ NPL และการขาย NPA เพิ่มขึ้น เพราะเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมีลูกค้ามูลหนี้มากกว่า 100 ลบ. จำนวน 1-2 ราย ขอเลื่อนการชำระเงินจาก 2Q65 เป็น 3Q65 และมีลูกค้ากลุ่มกลางเล็กที่อยู่ระหว่างเจรจาซื้อ NPA อีก 2-3 ราย ซึ่งคาดจะสามารถรับรู้เป็นกำไรได้ทันภายในปีนี้ นอกจากนี้ BAM ยังเริ่มกลับมาจัดกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น ทั้งการอนุมัติทรัพย์ NPA ราคาพิเศษเพิ่มขึ้น และจัดโปรโมชั่นด้านราคาเพื่อเร่งระบายสต๊อก NPL และ NPA เก่า รวมทั้งประมูลหนี้ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง (ในช่วง 1H65 มีปริมาณการขายหนี้เสียของสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 50%YoY) คาดช่วยหนุนให้ทั้งปี BAM จะมีกำไรสุทธิ 2,979 ลบ. โต 14.6%YoY

เตรียมรุกธุรกิจบริหารหนี้ไม่มีหลักประกัน และจัดตั้ง JVAMC ใน 3Q65

บริษัทมีแผนขยายธุรกิจเชิงรุกมากขึ้นจากในอดีต โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเพื่อเริ่มธุรกิจบริหารจัดการหนี้ NPL ไม่มีหลักประกัน เบื้องต้นคาดจะมีมูลหนี้เริ่มติดตามราว 1.7 หมื่นลบ. นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงินราว 2-3 แห่งเพื่อจัดตั้ง JVAMC ซึ่งจะมีอย่างน้อย 1 ราย เห็นความชัดเจนภายใน 3Q65 เป็นปัจจัยช่วยหนุนฐานกำไรในระยะยาว

มองราคาหุ้น Laggard และมี Upside น่าสนใจเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

เราชอบ BAM จากแนวโน้มการฟื้นตัวของกำไรที่โดดเด่นใน 2Q65 รวมถึงกำลังเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ อีกทั้งราคาหุ้นปรับลงมามากเกินไปจากความกังวลด้าน Supply หนี้เสียที่น้อยลง แต่เราพบว่าการประมูลหนี้ยังมีทิศทางขยายตัวเทียบจากปีก่อน เราจึงมองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันที่มี Upside ราว 42.9% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2565 ที่ 24 บาท (อิง PBV ที่ 1.8x และเพิ่มผลบวกจาก Yuanta ESG Rating ของ BAM ที่ระดับ AA ทำให้มีส่วนเพิ่มจาก PBV ที่ใช้ประเมินมูลค่าอีก 2%) จึงแนะนำ “ซื้อ”

- Advertisement -