บล.เอเซีย พลัส:
คาดกําไรสุทธิ 2Q65 เติบโตสูงจากการขายโรงไฟฟ้า
คาดกำไรสุทธิงวด 2Q65 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 117.9%qoq มาอยู่ที่ 642.3 ล้านบาท หนุนหลักจากรายการพิเศษขายโรงไฟฟ้า Hidaka ราว 350 ล้านบาท ขณะที่กำไรปกติคาดอ่อนตัวเล็กน้อย 2.0%qoq มาอยู่ที่ 290.1 ล้านบาท กดดันจากกระแสลมที่อ่อนตัวในประเทศเวียดนาม และรับรู้โครงการ Hidaka ได้เพียง 2 เดือน แม้เข้าสู่ช่วง High season ของ solar ในไทยและต่างประเทศ แต่ชดเชยไม่หมด ช่วงสั้น 3Q65 คาดกำไรปกติอ่อนตัวลงต่อเนื่อง QoQ หลังผ่านพ้นช่วง peak ของกลุ่ม solar มาแล้ว รวมถึงไม่มีการรับรู้โครงการ Hidaka ตั้งแต่ 3Q65 เป็นต้นไป คงประมาณการกำไรปี 65 และ FV อยู่ที่ 13.3 บาท/หุ้น แม้ช่วงสั้นคาดกำไรปกติจะอ่อนตัวลงตามช่วงฤดูกาล แต่ภาพใหญ่รายปี ยังเห็นกำไรที่ยังแข็งแกร่งในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันผ่านการปรับฐานมาแล้วระดับหนึ่งจนเห็น upside สูง คงคำแนะนำซื้อ โดยเน้นให้หาจังหวะทยอยสะสมลงทุน
2Q65 คาดกําไรสุทธิโตจากการขายโรงไฟฟ้า แต่กําไรปกติอ่อนตัว QoQ
คาดกำไรสุทธิงวด 2Q65 เติบโตมีนัยฯ 117.9%qoq มาอยู่ที่ 642.3 ล้านบาท หนุนหลักจากการรับรู้รายการพิเศษที่สุทธิแล้วคาดจะบันทึกเป็นกำไร 352.2 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) กำไรจากการขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Hidaka กำลังการผลิต 17.0 MWe ราว 350 ล้านบาท 2) กำไร unrealized Fx 17.2 ล้านบาท 3) ค่าเผื่อด้อยค่าที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง จากโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาราว 15 ล้านบาท เทียบกับงวด 1Q65 ที่บันทึกผลขาดทุนจาก unrealized Fx 1.1 ล้านบาท เพียงรายการเดียว
อย่างไรก็ตาม หากตัดรายการพิเศษและพิจารณาเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานปกติคาดจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยราว 2.0%qoq มาอยู่ที่ 290.1 ล้านบาท กดดันหลักจากรายได้จากการขายไฟฟ้าโดยรวมที่คาดลดลงราว 4.8%qoq มาอยู่ที่ 807.0 ล้านบาท เนื่องจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเวียดนามผลิตไฟฟ้าได้น้อยลงตามกระแสลมที่อ่อนตัวตามช่วงฤดูกาล และรับรู้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Hidaka ประเทศญี่ปุ่น 17 MWe ได้เพียง 2 เดือน (ดำเนินการขายหุ้นแล้วเสร็จเมื่อ 8 มิ.ย.2565) แม้คาดจะมีแรงหนุนจากการเข้าสู่ช่วง High season ของกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศก็ตาม แต่ไม่สามารถชดเชยไว้ได้หมด โดยอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ใน งวดนี้คาดจะลดลงมาอยู่ที่ 58.1% จาก 58.9% ในงวด 1065 ส่งผลให้กำไรขั้นต้นคาดจะลดลง 6.1%qoq มาอยู่ที่ 473.1 ล้านบาท
แต่ทั้งนี้ คาดยังมีแรงหนุนช่วยชดเชยจากส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมที่คาดจะเพิ่มขึ้น 709.7%qoq มาอยู่ที่ 26.2 ล้านบาท จากการรับรู้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมวินชัย 11.3 MWe (เข้าซื้อหุ้น 2 มี.ค. 2565) เข้ามาเต็มไตรมาสในครั้งแรก รวมถึงรายได้จากภาษีเงินได้ราว 5.2 ล้านบาท จากการปรับปรุงรายการทางบัญชีอันเกิดจากการจำหน่ายโครงการโรงไฟฟ้า Hidaka ประเทศญี่ปุ่น เทียบกับงวดก่อนหน้าที่บันทึกเป็นค่าใช้จ่าย 5.0 ล้านบาท
โดยรวมแล้วคาดกำไรปกติ 1H65 คิดเป็น 51.3% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2565 ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้
คงประมาณการกำไรปกติปี 65 …ทิศทางกําไร 3Q65 คาดอ่อนตัว QoQ
ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ไว้ที่ 1.1 พันล้านบาท เติบโต 34.6%yoy หนุนหลักจากการรับรู้โครงการใหม่ๆที่ทยอย COD เข้ามาในปี 2564 กำลังการผลิตรวม 66.3 MWe ได้เต็มที่ทั้งปี รวมถึงการรับรู้โครงการวินชัย 11.3 MWe ที่เข้าซื้อหุ้นเมื่อเดือน มี.ค. 2565 อีกทั้งคาดยังมีแรงหนุนบางส่วนจากการประกาศปรับขึ้นค่า ft ซึ่งจะช่วยให้โรงไฟฟ้า solar SPN กำลังการผลิต 40 MWe และโครงการวินชัย 11.3 MWe มีรายได้ปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับทิศทางกำไรปกติในช่วงสั้น 3Q65 คาดจะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง QoQ โดยมีแรงกดดันจากการออกจากช่วง High season ของกลุ่มโรงไฟฟ้า Solar รวมถึงจะไม่มีการรับรู้โครงการ Hidaka ถึงแม้ว่าส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมคาดจะรับรู้ผลประกอบการที่ดีขึ้น จากกระแสลมในประเทศไทยที่คาดยังดีต่อเนื่อง QoQ แต่ไม่สามารถชดเชยไว้ได้หมด
ESG
Environment: ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการทางธุรกิจ
Social: มุ่งมั่นในการพัฒนาส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคม และชุมชนอันเป็นที่ที่กลุ่มบริษัทฯ ตั้งอยู่ให้มีคุณภาพดีขึ้น พร้อมๆ กับการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ
Governance: จัดทำนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยครอบคลุมเนื้อหาหลักการสำคัญตั้งแต่โครงสร้าง บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ จนถึงหลักการในการบริหารงานของผู้บริหารอย่างโปร่งใส ชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้
SSP แนะนํา ซื้อ
ราคาปัจจุบัน (บาท) 9.40
ราคาเป้าหมาย (บาท) 13.30
Upside (%) 41.5
Dividend yield (%) 3.8