มีโอกาสปรับตัวขึ้นหนุนจากตลาดหุ้นโลกที่ฟื้นตัวเด่น

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น 1.3% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากการเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่ระดับ 56.7 สวนทางกับนักวิเคราะห์คาดการณ์ที่เพียง 53.5 รวมถึงการเปิดเผยคำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐขยายตัว 2%MoM ดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 1.3%MoM นอกจากนี้ยังได้ปัจจัยบวกจากการเยือนไต้หวันของผู้นำสหรัฐฯมิได้ทำให้เกิดความรุนแรงแต่อย่างใด ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับตัวลดลง 3.7% แม้ที่ประชุม OPEC+ จะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตเพียง 1 แสนบาร์เรล/วัน ลดลงจากเดือนก่อนที่ 6.48 แสนบาร์เรล/วัน แต่ถึงกระนั้นตลาดกลับมองไปที่ประเด็นสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่พุ่งขึ้น 4.5 ล้านบาร์เรล

Market Outlook

ประเมิน SET INDEX มีโอกาสปรับตัวขึ้นในกรอบ 1595 – 1605 รับแรงหนุนเชิงบวกจากหลายๆ ปัจจัย อาทิ ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น และตลาดหุ้นญี่ปุ่น (Nikkei) ที่เช้านี้แกว่งบวก 0.9% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงจะเป็นปัจจัยผ่อนคลายต่อภาวะเงินเฟ้อ และหนุนให้การเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ FED ไม่ร้อนแรง ส่งผลให้ Dollar อ่อนค่าและเงินบาทมีทิศทางแข็งค่าหนุน Fund Flow ต่างชาติมีโอกาสไหลกลับเข้ามา ส่วนประเด็นสหรัฐ จีน และไต้หวัน ก็ดูจะมิได้มีความรุนแรงหรือตึงเครียดแต่อย่างใด ส่วนปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ Bloomberg คาดการณ์ที่ 2.62 แสนตำแหน่ง สูงจากสัปดาห์ก่อนที่ 2.56 แสนตำแหน่ง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตุว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการเริ่มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อาจสะท้อนถึงการเริ่มปลดพนักงานออกบางส่วน ในอดีตที่ผ่านมามักเป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างไวในการสะท้อนภาคแรงงานของสหรัฐ รวมถึงวิกฤตทางเศรษฐกิจ ส่วนนึงเป็นเพราะระยะเวลาในการประกาศเป็นรายสัปดาห์ ดังนั้น ต้องติดตามใกล้ชิดเกี่ยวกับภาคแรงงานของสหรัฐฯในวันศุกร์ ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังมองการฟื้นตัวของ SET INDEX เริ่มมี Upside จำกัดยังคงประเมินแถวๆ 1630 +/- การปรับตัวขึ้นในช่วงนี้ จึงมองเป็นโอกาสของการทยอยลดพอร์ต เนื่องจากช่วงถัดไปยังมีความเสี่ยงจาภาวะเศรษฐกิจ ชะลอตัวเป็นปัจจัยกดดัน อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นแนะนำหุ้นขนาดใหญ่ที่มิใช่พลังงาน อาทิ ธนาคาร (BBL KBANK SCB TTB TISCO) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO GLOBAL) ขนส่ง (BTS BEM) กลุ่มได้ประโยชน์จากน้ำมันลดลง (SCC SCGP TOA) และโรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF) สื่อสาร (ADVANC INTUCH)

Pi Stock Picks

KBANK (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 174.00 บาท)

คงประมาณการอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิที่ 14% YoY สำหรับปี 2022 และ 10% YoY ในปี 2023 หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่สูงขึ้นและการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง คาดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ลดลงเป็น 150bp ในปี 2022 และ 130bp ในปี 2023 เทียบกับ 173bp ในปี 2021

SCGP (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 66.00 บาท)

คาดว่ากำไรจะปรับดีขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่ 3Q22 หนุนจากทิศทางในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่ดีขึ้น บวกกับอุปสงค์ต่อปริมาณจากตลาดในและนอกประเทศที่ปรับดีขึ้น ราคาเยื่อกระดาษที่สูง และทิศทางกระดาษรีไซเคิลที่ลดลงจากต้นทุนขนส่งที่ลดลง

- Advertisement -