บล.บัวหลวง:
Residential Property – ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวขึ้น 4.3% YoY โดยผู้ซื้อระดับราคาบนยังคงแข็งแกร่ง (NEUTRAL)
ธปท.รายงานดัชนีราคาอสังหาฯ (RPPI) ที่สูงสุดในรอบทศวรรษ ในไตรมาส 2/65 โดยสะท้อนมาจากต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวขึ้นในไตรมาส 1/65 ทั้งนี้ราคาบ้านที่ปรับตัวขึ้นมาจากทุกกลุ่ม นําโดยกลุ่มบ้านเดี่ยว ตามด้วยทาวน์เฮาวส์และคอนโด ทั้งนี้เนื่องจาก RPPI ในไตรมาส 2/65 ยังไม่ได้สะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้นทั้งหมด เราจึงคาดจะเห็นราคาปรับตัวขึ้นต่อในไตรมาส 3/65 (แม้หากต้นทุนจะทรงตัว) อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ในกลุ่มราคาระดับบนยังคง แข็งแกร่ง โดยเราชอบ LH และ AP มากที่สุดในกลุ่ม
ดัชนีราคาอสังหาฯปรับตัวขึ้นในไตรมาส 2/65
ตัวเลขดัชนีราคาอสังหาฯของธปท. ในไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 171.9 ปรับตัว ขึ้น 4.3% YoY และ 1.4% QoQ (RPPI ในไตรมาส 1/65 ปรับตัวขึ้น 3.7% YoY) สะท้อนมาจากต้นทุนวัสดุที่สูงขึ้นในไตรมาส 1/65 ราคาบ้านที่ปรับตัวขึ้นมาจากทุกกลุ่ม นำโดยกลุ่มบ้านเดี่ยว ซึ่งดัชนีราคาบ้านเดี่ยวปรับตัวขึ้นไปทำสถิติสูงสุดในรอบทศวรรษอยู่ที่ 152.6 ในไตรมาส 2/65 ปรับตัวขึ้น 5.2% YoY และ 1.8% QoQ ขณะที่ดัชนีราคากลุ่มทาวน์เฮาส์ปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ 169.9 (สูงสุดในรอบทศวรรษเช่นกัน) ปรับตัวขึ้น 4.3% YoY และ 1.5% QoQ และดัชนีราคากลุ่มคอนโดอยู่ที่ 185.3 ในไตรมาส 2/65 ปรับตัวขึ้น 3.6% YoY และ 1.8% QoQ (แต่ต่ำ กว่าสถิติสูงสุดที่ 185.4 ในไตรมาส 3/64) ท้ายสุดราคาดัชนีที่ดินอยู่ที่ 179.6 ปรับตัวขึ้น 4.3% YoY และ 0.4% QoQ
ราคาบ้านมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อในไตรมาส 3/65
ราคาบ้านที่ปรับตัวขึ้นในไตรมาส 2/65 ส่งผลให้นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ราคาบ้านเดี่ยวปรับตัวขึ้น 2.3% ทาวน์เฮ้าส์ขึ้น 2.6% และ คอนโดขึ้น 2.9% ซึ่งโมเมนตัมการปรับตัวขึ้นน่าจะต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 1 ไตรมาส (ไตรมาส 3/65) เนื่องจากปกติราคาบ้านจะปรับตัวขึ้นช้ากว่าราคาวัสดุก่อสร้างราว 3-6 เดือน ทั้งนี้เราคาดมาตรการจูงใจของทางภาครัฐต่อกลุ่มอสังหาฯ จะยังคงมีไปจนถึงปี 2566 – อัตราส่วนสินเชื่อต่อราคาดาวน์บ้านที่ต่ำ (LTV) สำหรับค่าธรรมเนียมการโอนและดาวน์ที่ลดลง แนวโน้มครึ่งหลังของปี 2565 ของกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาฯ จากการพูดคุยกับบริษัท
สินค้าพรีเมี่ยมจะยังคงมีอัตรากำไรที่ดี
SC LH และ AP มีค่าเฉลี่ยมูลค่า/ยูนิตที่สูงที่สุด (ที่พร้อมขาย) ถึง 9.2 ล้านบาท/ยูนิต 8.8 ล้านบาท/ยูนิตและ 5.6 ล้านบาท/ยูนิต ตามลำดับ เราคาดบริษัทจะสามารถรักษาอัตรากำไรขึ้นต้นได้ เนื่องจากลูกค้าระดับบนไม่ได้อ่อนไหวต่อราคาที่เปลี่ยนแปลงมากเท่ากับกลุ่มราคาระดับล่าง ดังนั้นผู้พัฒนาอสังหาฯ จึงสามารถผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปให้ได้