สัญญาณเศรษฐกิจถดถอยเริ้มปรากฎ อาจเริ่มทยอยลดพอร์ตบางส่วน
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบ 0.26% รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน (Chevron ลดลง 2.7%) หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 2.8% ทดสอบระดับ 94.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล นับเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน และเป็นที่น่าสังเกตุว่าต่ำกว่าช่วงเกิดสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย มองปัจจัยดังกล่าวเป็นการสะท้อนจากตลาดถึงอุปสงค์ที่มีแนวโน้มอ่อนแอในอนาคต ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปียังคงปรับลงต่อเนื่อง บ่งชี้ถึงเม็ดเงินที่กระจุกอยู่ในสินทรัพย์ปลอดภัย และสะท้อนถึงความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคต ข้อดีคือตลาดจะผ่อนคลายกับประเด็นเงินเฟ้อแต่ในระยะถัดไป เชื่อว่าจะกลับมากังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ด้านตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนประกาศผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯที่ 2.6 แสนตำแหน่งตามที่ตลาดคาดหมายไว้ แต่น่าติดตามว่าทิศทางเริ่มเร่งขึ้นต่อเนื่องสะท้อนถึงภาคแรงงานในสหรัฐที่เริ่มอ่อนแอ
Market Outlook
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1590 – 1605 คาดกลุ่มพลังงานกดดันต่อเนื่องตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง แต่เชื่อว่าจะได้แรงหนุนจากกลุ่มอื่นๆ และมีโอกาสที่ต่างชาติจะกลับมาซื้อตามทิศทางค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า ส่วนประเด็นในประเทศวันนี้มีปัจจัยติดตามอย่างการรายงานเงินเฟ้อประจำเดือน ก.ค. Bloomberg Consensus คาดจะขยายตัว 8%YoY ทรงตัว MoM อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหากออกมาสูงกว่าตลาดคาดการณ์ก็ไม่มีผลกับการลงทุนมาก เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันกำลังปรับตัวลดลงมา ดังนั้นทิศทางเงินเฟ้อในเดือน ส.ค. ยิ่งมีแนวโน้มจะลดลงต่อเนื่อง ส่วนต่างประเทศจะให้ความสำคัญกับการเปิดเผยภาคแรงงานสหรัฐฯ โดยคืนนี้ราว 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทยจะมีการรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ Bloomberg คาดการณ์ที่ 2.5 แสนตำแหน่ง และอัตราการว่างงานที่ 3.6% พร้อมกับการขยายตัวค่าจ้างรายชั่วโมงที่ 0.3%MoM เป็นที่น่าสังเกตว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เริ่มลดลงต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 เดือนติดต่อ เชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจเริ่มทยอยลดพอร์ตบางส่วน หลังจากตลาดปรับขึ้นมารับปัจจัยบวกด้านเงินเฟ้อผ่อนคลายและดอกเบี้ย แต่ช่วงถัดไปจะเริ่มมีความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งเริ่มมีสัญญาณออกมาบ้างแล้ว ส่วนหุ้นแนะนำช่วงนี้จะเน้นไปที่กลุ่มได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับลดลง อาทิ โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF) ปั๊มน้ำมัน (PTG OR) และ (SCC SCGP TOA) รวมไปถึงกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO GLOBAL) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB TTB TISCO)
Pi Stock Picks
BGRIM (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 42.00 บาท)
ภาพรวมใน 2H22-2023 จะดีขึ้นเพราะการปรับเพิ่มค่า Ft จะช่วยยกระดับอัตรากำไรโครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์เชิงจิตวิทยาจากแนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลงต่อเนื่อง
PTG (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท)
ภาพรวม 2Q-2H22 ดูดีหนุนจากปริมาณขายน้ำมันที่โตแข็งแกร่ง เพราะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤติโควิด-19 และการกลับมาของกิจกรรมการท่องเที่ยว ขณะที่คาดว่าค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันจะปรับดีขึ้น