Our View? “ชะลอบ้าง”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway” ภายใต้ประเด็นเดิมจากความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัวทั้งใน (1) สหรัฐ หลัง GDP – 2Q65 หดตัว 0.9% ต่อเนื่องจากหดตัว 1.6% เมื่อ 1Q64 ซึ่งหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค (2) ยุโรป หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ระบุเศรษฐกิจอังกฤษจะเผชิญภาวะถดถอยนานถึง 5 ไตรมาส นานสุดนับแต่เศรษฐกิจโลกเผชิญวิกฤตการเงิน ขณะที่ล่าสุด BOE ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.50% สูงสุดในรอบ 27 ปี สู่ 1.75% และ (3) มาตรการเข้มงวด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของจีน ล่าสุด Lockdown เมืองซานย่า ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสําคัญที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลไหหลำ หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

ทางด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ล่าสุด (1) ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 6,000 ราย อยู่ที่ 260,000 ราย ใกล้ระดับสูงสุดเมื่อพ.ย. 64 (2) ตัวเลขขาดดุลการค้า – มิ.ย. 65 ลดลง 6.2% สู่ระดับ 7.961 หมื่นล้าน USD จากนําเข้าลดลง 0.3 และส่งออกเพิ่มขึ้น 1.7%

แนะติดตาม (1) ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร – ก.ค. 65 ของสหรัฐ คาดเพิ่มขึ้น 258,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่า 372,000 ตำแหน่งเมื่อมิ.ย. ที่ผ่านมา และคาดอัตราว่างงานเดือนก.ค.ทรงตัวที่ 3.6% และ (2) การซ้อมรบของจีนรอบเกาะไต้หวัน (4-7 ส.ค.) เพื่อตอบโต้ต่อการเดินทางเยือนกรุงไทเปของนางแนนซี เพโลยี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และวานนี้ (เป็นครั้งแรก) ยิงขีปนาวุธตกลงในน่านน้ำญี่ปุ่น ขณะที่คาดความตึงเครียดดังกล่าวจะส่งผลให้แนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน มีโอกาสล่าช้าออกไปอย่างไม่มีกำหนด คาดว่าจำกัดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน-ภูมิภาคได้บ้าง

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 2.12 ดอลลาร์ หรือ 2.3% อยู่ที่ 88.54 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่าสุดนับแต่ 2/2/65 จากความกังวลเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัว พร้อมกับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่เปิดเผยก่อนหน้า เพิ่มสูงถึง 4.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 0.7 ล้านบาร์เรล คาดเป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มพลังงาน แต่ยังมองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC และ GULF) ต่อ

สําหรับปัจจัยในประเทศเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นตามที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า จากการที่คาดส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยไทย-สหรัฐ จะเริ่มแคบลงในระยะถัดไป รวมทั้ง การอ่อนค่าของ Dollar Index คาดจะหนุนแรงซื้อหุ้นกลับของนักลงทุนต่างชาติได้บ้าง เป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย ขณะที่คาดมีแรงเก็งกำไรผลประกอบการ – 2Q65 ที่เพิ่มขึ้น YoY ในหุ้นรายตัว เช่น กลุ่มการเงิน (MTC, SAWAD และ TIDLOR) หลังความต้องการสินเชื่อฟื้นตัวจากเศรษฐกิจไทยเริ่มกลับมาดำเนินงานอีกครั้ง รวมถึงราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้งเรายังชอบหุ้นในกลุ่มศูนย์การค้า (CPN, MBK และ PLAT) และหุ้นในกลุ่มโฆษณา (VGI และ PLANB) คาดจะได้รับประโยชน์จากการเปิดเมือง และแนวโน้มนักท่องเที่ยวที่โดดเด่นในช่วง 2H65 จากเป้าหมาย นทท.ต่างชาติ ทั้งปี’65 ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ขณะที่ YTD อยู่ที่ 2.7 ล้านคน เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางราคาหุ้นดังกล่าวได้

พร้อมแนะนำติดตามการประชุม กนง. (10/8/65) อย่างใกล้ชิด คาดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25-0.50% และติดตามมุมมองของ กนง. ที่มีต่อทิศทางเงินเฟ้อและเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป ซึ่งมีการคาดตัวเลขเงินเฟ้อ – ก.ค. ของไทย ไว้ที่ 8% จาก 7.6% เมื่อมิ.ย.

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “AOT” ได้ประโยชน์จากจํานวน นทท. ต่างชาติ โดยเฉพาะ 4Q/65 คาดไม่ต่ำกว่า 4.5 ล้านคน และคาดผลการดำเนินงานมีแนวโน้มขาดทุนลดลง หลังการเดินทางเริ่มเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ราคาเป้าหมาย 76.14 บาท (ราคาเฉลี่ยจาก Settrade consensus 5/8/65)

- Advertisement -