บล.เอเซีย พลัส:

กําไร 2Q65 ฟื้นตัว..จะโดดเด่นขึ้นใน 2H65

INSET รายงานกำไรสุทธิงวด 2Q65 ที่ 41 ล้านบาท (+74.0% qoq, +10.7% yoy) ตามคาด มาจากรายได้ขายที่โตขึ้นตามการส่งมอบงานในมือที่มีอยู่เดิม ซึ่งสามารถชดเชย Gross margin ในงวด 2Q65 ที่ลดลง จากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่แพงขึ้น รวมถึงการส่งมอบงานที่มีมาร์จิ้นต่ำกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารซึ่งลดลง จากการบริหารจัดการของบริษัทฯที่ดีขึ้น

แม้กำไรสุทธิช่วง 1H65 มีสัดส่วนคิดเป็นเพียง 38% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ โดยยังให้น้ำหนักทิศทางกำไรไปโดดเด่นใน 2H65 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลของการส่งมอบงานเก่า อีกทั้งยังมีงานรอประมูลที่ถูกเลื่อนจาก 1H65 เข้ามาเพิ่มด้วย จึงยังคงประมาณกำไรปีทรงตัวใกล้เคียงปีก่อนที่ 170 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปกว่า 30% ตั้งแต่ต้นปี สะท้อนการประมูลงานที่ล่าช้าไปกว่ากำหนดการเดิมไปมากแล้ว Upside เปิดกว้างจากราคาเป้าหมายที่ 5.90 บาท..แนะนำซื้อ

กำโร 2Q55 เติบโต QoQ..การส่งมอบงานใดินชดเชยมาร์จิ้นที่ต่ำ

INSET รายงานกำไรสุทธิงวด 2Q65 ที่ 41 ล้านบาท (+74.0% qoq, +10.7% yoy) ตามคาด จากรายการต่อไปนี้ 

1.รายได้รวมงวด 2Q65 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 434 ล้านบาท (+ 72.5% 909 +9.67eyoy) โดยเป็นการส่งมอบงานในมือที่มีอยู่เดิม (Backlog ต้นงวดที่มีอยู่ 2.3 พันล้านบาท) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้าง Data Center โครงการ True IDC Bangna, โครงการ EEC cloud ส่วนงานประเภททุนโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นงานเสาของ บมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) กับงานบริษัทลูกของ True (งาน TUC New site) 

และ 2. SG&A/Sales งวด 2Q65 ปรับตัวลดลงมีอย่างนัยฯ มาที่ 3.3% จาก 6.1% ในงวด 1Q65 เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับ ตัวลดลง ในขณะที่การรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาก ส่งผลให้ Net margin ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9.5% จาก 9.4% ในงวด 1Q65 ซึ่งจะชดเชย Gross margin ในงวด 2Q65 ที่ลดลงเหลือ 15.0% จากเดิม 17.7% ในงวด 1Q65 และ 5.6% ในงวด 2Q64 มาจากส่วนการรับรู้งานมาจิ้นต่ำรวมถึงราคาต้นทุนวัตถุดิบแพงขึ้นบ้าง

ทั้งนี้ Backlog หลังการรับรู้รายได้งวด 2Q65 อยู่ที่ราว 2.1 พันล้านบาท ลดลงเล็กน้อยสิ้น 1Q65 ที่ 2.3 พันล้านบาท ตามการรับรู้รายได้ 2Q65 มากขึ้น ในณะที่งานใหม่ที่เข้ามาน้อยลงผลกระทบจากการประมูลข้าไปบ้าง

กำใร 2H65 จะทยอยเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส

แนวโน้มระยะถัดไปคาดหวังงานใหม่เข้ามาเติมใน Backlog มากขึ้น โดยยังให้น้ำหนักทิศทางกำไรไปโดดเด่นใน 2H65 เนี่องจากเป็นช่วง ฤดูกาลของการส่งมอบงานเก่า อีกทั้งยังมีงานรอประมูลถูกเลื่อนจาก 1H65 เข้ามาเพิ่มแทน รวมถึงงานใหม่ๆ จากงานประมูลโครงการของภาครัฐเพิ่มเติมอีก 2-3 โครงการ มูลค่ากว่า 600-1200 ล้าน โดยหลังจากได้งานจะทยอยรับรู้ในช่วง 4Q65 หรือ 1Q56 เป็นต้นไป

ราคาหุ้นลดลงเกินพื้นฐานไปมาก….แนะนำ ซื้อ

แม้กำไรสุทธิช่วง 1H65 มีสัดส่วนคิดเป็นเพียง 283% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ มองน้ำหนักกำไรไปเด่นใน 2H65 ยังคงประมาณการกำไรปีทรงตัว ใกล้เคียงปีก่อนที่ 170 ล้านบาท ในขณะที่คาดแนวโน้มกำไรปี 2566 เติบโต 23.6% yoy สู่ระดับ 210 ล้านบาท จากแผนงานการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงธุรกิจ Data contor ที่สดใสจากเม็ดเงินลงทุนจากทางภาครัฐและเอกชน รวมถึงการเข้ามาลงทุนจากต่างประเทศที่มากขึ้น

ฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ “ซื้อ” INSET และคงราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 5.90 บาท (อิง PER ที่ 26.6 เท่า, +1 SD และ Norm EPS ปี 2565 ที่ 0.22 บาท) เนื่องจาก 1) เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีจากผลประกอบการ 2Q65 ที่เติบโต และ 2) คาดกำไรจะไปโดดเด่นในช่วง 2H65 ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปกว่า 32% ตั้งแต่ต้นปี สะท้อนความกังวลความล่าช้าของานไปมากแล้ว

ประเด็นความเสี่ยง

1.การพึ่งพาลูกค้ารายหลัก

2.การพึ่งพาบุคลากรหลักๆ

3.ความเสี่ยงการรับงานใหม่และส่งมอบงานใน Backlog ที่ล่าช้ากว่าคาด

INSET แนะนํา ซื้อ

ราคาปัจจุบัน (บาท) 4.48

ราคาเป้าหมาย (บาท) 5.90

Upside (%) 31.7

Dividend yield (%) 3.5

- Advertisement -