SNNP โชว์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/65 ทำยอดขายนิวไฮ กวาดรายได้รวมกว่า 1,339 ล้านบาท ผลจากยอดขายเติบโตต่อเนื่อง กระแสตอบรับผลิตภัณฑ์ใหม่ดีเยี่ยม   กำไรสุทธิแตะ 116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% จากงวดเดียวกันปีก่อน บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด อัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้ได้รับสิทธิวันที่ 22 สิงหาคม 2565 นี้ ขณะที่ผลงานครึ่งปีหลังยังโตโดดเด่น จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม้ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค มั่นใจผลงานปีนี้รายได้ทะยานแตะ 5,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง หลังปูพรมบุกตลาดต่างประเทศ 

 

นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ  บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานสำหรับงวดไตรมาส 2/65 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42 ล้านบาท หรือ 57% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 74 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,339 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 266 ล้านบาท หรือ 25% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 1,073 ล้านบาท

ขณะที่งวด 6 เดือนของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิจากธุรกิจหลัก ซึ่งไม่รวมกำไรพิเศษ อยู่ที่ 235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90 ล้านบาท หรือ 62% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 145 ล้านบาท ส่วนรายได้จากธุรกิจหลักรวมอยู่ที่ 2,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 371 ล้านบาท หรือ 18% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 2,086 ล้านบาท

สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากการที่ยอดขายในประเทศ ยังสามารถขยายตัวได้ดี และเติบโตได้มากกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรม อีกทั้งบริษัททยอยออกสินค้าใหม่ๆ ออกวางจำหน่าย ซึ่งมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี รวมทั้งไตรมาส 2 ของทุกปี ยังเป็นช่วงไฮซีซันในการจำหน่ายสินค้าของบริษัท ประกอบกับยอดขายจากประเทศเวียดนามมีการเติบโตได้ต่อเนื่อง และปัญหาเรื่องการขนส่งก็กลับเข้ามาสู่ภาวะปกติ โดยบริษัทยังมีความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ออกสู่ตลาด รองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.18 บาท  รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 173 ล้านบาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date)ในวันที่ 22 สิงหาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 กันยายน 2565

“ผลดำเนินการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว ทั้งในด้านคุณภาพและการบริการ ตลอดจนการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่หนึ่งในใจของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าหลัก อย่างเจเล่ และเบนโตะ สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง  ซึ่งจากผลงานในช่วง 6 เดือนยังเติบโตได้ดี ทำให้มั่นใจว่า ภาพรวมทั้งปี2565 แนวโน้มรายได้ในปีนี้จะพุ่งแตะที่ระดับ 5,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ตามแผนงานที่วางไว้”

ส่วนแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตามแผนที่วางไว้ เช่น ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้าหลัก อย่างเจเล่ และเบนโตะ ส่วนกลยุทธ์ทางด้านการตลาดจะมีการปรับโฉมสินค้า “เจเล่” รวมถึงการเปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ๆ เพื่อสื่อสารทางการตลาดกับกลุ่มผู้บริโภค  เพื่อเป็นการสร้างกระแสให้กับกลุ่มผู้บริโภคครั้งใหญ่ในช่วงไตรมาส 3/65 รวมถึงตลาดต่างประเทศที่บริษัทจะเร่งขยายช่องทาง และลงทุนสร้างฐานธุรกิจไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะประเทศเวียดนาม กัมพูชา หรือประเทศส่งออกอื่นๆ ซึ่งมีแนวโน้มจะเติบโตได้ดีขึ้นในทุกไตรมาส

********

- Advertisement -