ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ แกว่งขึ้นต่อ ฟันด์โฟลว์แข็งแกร่งกว่าคาด

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันอังคารแกว่งขึ้นต่อ… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยแข็งแกร่งกว่าที่เราคาด ตามแรงซื้อจากต่างชาติที่เข้ามาชัดเจนในช่วงท้ายของการซื้อขาย หนุนหุ้นตัวใหญ่ๆ รีบาวด์ ค่อนข้างดี… สำหรับในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมเป็นบวกเล็กน้อย กล่าวคือ 1) ค่าเงินบาท/ดอลลาร์ฯ แข็งค่าต่อเนื่อง หนุนโดยภาพเศรษฐกิจไทยที่ดีกว่าในสหรัฐฯ และฝั่งตะวันตก ผนวกกับแรงเก็งกำไรรับผลประชุม กนง. วันพรุ่งนี้ ซึ่งน่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ 0.75% น่าจะหนุนฟันด์โฟลว์ต่อในวันนี้ 1) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เทรดในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่รอตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคเดือน ก.ค. ที่จะออกมาในเย็นวันพรุ่งนี้ ผนวกกับผู้ผลิตชิพและซอฟท์แวร์เจ้าใหญ่อย่าง Nvidia เตือนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจและผลประกอบการที่จะชะลอตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้… ด้านปัจจัยภายในประเทศ เมื่อวานนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อฯ มีมติลดระดับของ COVID-19 ลงจากโรคระบาดอันตรายเป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง มีผล 1 ต.ค. 2565 ประเด็นนี้น่าจะหนุนการฟื้นตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว การเปิดเมืองเต็มรูปแบบ และส่งผลดีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อไป

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร ECL, CRC*, CHAYO

  • ECL (เป้าพื้นฐาน 3.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 2.42 บาท / แนวต้าน 2.48-2.60 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 2.8 บาท (Stop loss 2.32 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q65 โตเด่น YoY ต่อเนื่อง และลุ้นกำไรปีนี้ทำจุดสูงสุดใหม่ ทะลุ 200 ล้านบาท โดยคาด NIM ยังขยายตัวเด่นแม้อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นจากเงินทุนดอกเบี้ยต่ำจาก Sumitomo Mitsui Banking Corporation: SMBC ด้วยต้นทุนดอกเบี้ยรวมอัตราค่าค้ำประกันที่เพียง 2.6% 3) Upside จาก ปัญหา Supply chain รถใหม่มีปัญหาจากการขาดแคลนชิป หนุนดีมานด์รถมือสองใน 2H65 และกำไรพิเศษจากการขายหนี้เสียให้ AMC ใน 2H65 4) PBV ต่ำ เพียง 1.45 เท่า (ค่าเฉลี่ยในอดีต = 1.3 เท่า) ขณะที่คาดกำไรทำจุดสูงสุดใหม่
  • CRC* (เป้า Consensus 43.2 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 37.75 บาท / แนวต้าน 38.75-39.0 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 41.5 บาท (Stop loss 36.5 บาท) 2) Consensus คาดกำไร 2Q65 Turnaround YoY เป็นกำไร +/- 1.4 พันล้านบาท เราคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และจะทยอยฟื้นตัวตามการเปิดประเทศ การท่องเที่ยว โดย Consensus คาดกำไรปี 2566 โต +46% YoY 3) Forward PE ปีหน้าจะลดลงเหลือ 29 เท่า (ไม่แพงเทียบกับกลุ่มค้าปลีก)
  • CHAYO (เป้า Consensus 17.2 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 10.8 บาท / แนวต้าน 11.3-11.6 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 13 บาท (Stop loss 10.5 บาท) 2) Consensus คาดกำไรปีนี้โต +18.4% YoY โดยเราคาดผลการดำเนินงาน 2H65 จะดีกว่า 1H65 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลบวกต่อการทวงถามหนี้ 3) คาดเตรียมประกาศ JV การบริหารหนี้กับสถาบันการเงินเร็วๆ นี้ หลังจากที่ JMT และ BAM ประกาศไปก่อนหน้าแล้ว ซึ่งจะเป็น Upside ต่อประมาณการฯปี 2565 – 66 4) ราคาหุ้นพักฐานทำให้ Forward PE ลดลงเหลือเพียง +/- 23 เท่า ขณะที่คาดมี Upside จากการประกาศ JV + การเตรียมประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5 – 8%

หุ้นมีข่าว

(+) ททท.ชงศบค.ขยายวีซ่านักท่องเที่ยว (กรุงเทพธุรกิจ) “ททท.” จ่อชง “ศบค.” 19 ส.ค.ขยายเวลาพำนักวีซ่านักท่องเที่ยว วีซ่าหน้าด่าน (VoA) สูงสุดไม่เกิน 45 วัน หนุนต่างชาติเที่ยวไทยใช้จ่ายมากขึ้น พร้อมผนึกยักษ์ไอทีจีน “หัวเว่ย” ส่งเสริมนวัตกรรมการท่องเที่ยวใหม่บนเครือข่าย 5G

(0) กลุ่มแอลเอช” ชี้ชะตา JAS (กรุงเทพธุรกิจ) “กลุ่มแอล เอช” นับว่าเป็นผู้ชี้ชะตาบมจ.จัสมิน อินเตอร์ เนชั่นแนล (JAS) จะขายหุ้นบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB) และกองทุนรวม โครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ให้แก่ บริษัท แอดวานซ์ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จํากัด (AWN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ได้หรือไม่ จากเป็นกลุ่มผู้ถือหน่วยรายใหญ่ อันดับ 2 ของ (JASIF) ถือหุ้นรวมกัน 616.08 ล้านหุ้น หรือ 7.7% เพราะหากผู้ถือหน่วยไม่อนุมัติ ทำให้ดีลนี้ต้องล้มทั้งกระดาน

(+) HARN ไฟไหม้ ดับเพลิงขายดี เจาะอาคารสูง-แบ็กล็อกแน่น (ทันหุ้น) HARN รับอานิสงส์เพลิงไหม้ หนุนอุปกรณ์ดับเพลิงขายดี ชี้ปัจจุบันมีอาคารรีโนเวตอยู่ราว 1 หมื่นแห่ง ลุยเจาะโครงการสูง กวาดยอดขายแล้วในสัดส่วน 20-25% บอสใหญ่ “วิรัฐ สุขชัย” อวดแบ็กล็อก 400 ล้านบาท จ่อบุ๊กเป็นรายได้ 80% หนุนผลงานครึ่งปีหลังติดเครื่องวิ่งต่อ

(+) RCL ลั่นรายได้ปีนี้พุ่งเท่าตัว สั่งต่อเรือใหม่ 8 ลำ รองรับ (ทันหุ้น) RCL รับอานิสงส์สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวัน หนุนลูกค้าขยายตลาดต่างประเทศใหม่ๆ เพื่อทำการค้าขายใหม่ๆ เพิ่ม มั่นใจรายได้รวมปี 2565 โตเท่าตัว เดินหน้าสั่งต่อเรือใหม่ 8 ลำ คาดรับมอบปลายปี 2565 นี้ 2 ลำ

(+) 10 หุ้นรับธีมขึ้นค่าแรง แบงก์เด้งรับประชุมกนง. (ข่าวหุ้น) 10 หุ้นกลุ่มการเงินรับอานิสงส์ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-8% หนุนลูกหนี้ชำระหนี้ดีขึ้น นำโดย SAWAD, TIDLQR, MTC, AMANAH, ASK, MICRO, SINGER, THANI, JMT และ CHAYO โดดเด่น ส่วนวานนี้หุ้นแบงก์ใหญ่วิ่งแรง เตรียมขยับดอกเบี้ยเงินกู้ 0.1-0.15% หลังกนง.ปรับขึ้น 0.25% วันที่ 10 ส.ค.นี้ โบรกฯ ส่งผลดีต่อแบงก์ขนาดใหญ่ BBL*, KTB*, SCB* และ KBANK*

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • หุ้นที่แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุดขายทำกำไร PTG* (Trailing stop 14.8 บาท)
  • COM7* (เป้าพื้นฐาน 52 บาท) แนวรับ 32.5 บาท / แนวต้าน 35.5 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 31.5 บาท)
  • BGRIM* (เป้าพื้นฐาน 41 บาท) แนวรับ 38.25 บาท / แนวต้าน 40 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 38 บาท)
  • GPSC* (เป้าพื้นฐาน 82 บาท) แนวรับ 70 บาท / แนวต้าน 72.5 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 69 บาท)
  • SNNP (เป้า Consensus 19.85 บาท) แนวรับ 15.7 บาท / แนวต้าน 16.5 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 15.5 บาท)
  • KBANK* (เป้าพื้นฐาน 188 บาท) แนวรับ 148 บาท / แนวต้าน 152 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Stop loss 146 บาท)
  • OTO (เป้าพื้นฐาน 16.2 บาท) แนวรับ 17.5 บาท / แนวต้าน 18.2-18.5 บาท (Trailing stop 17.0 บาท)
  • ILM (เป้า SAA Consensus 21.45 บาท) แนวรับ 17.8 บาท / แนวต้าน 18.5-18.9 บาท (Trailing stop 17.5 บาท)
  • NEX (เป้า Consensus 22.8 บาท) แนวรับ 16.6 บาท / แนวต้าน 17.3-17.6 บาท (Trailing stop 16.3 บาท)
  • LEO (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) แนวรับ 11.9 บาท / แนวต้าน 12.2-12.5 บาท (Stop loss 11.7 บาท)
  • BCH* (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) แนวรับ 20.1 บาท / แนวต้าน 20.6-21.0 บาท (Stop loss 19.9 บาท)
  • IP (เป้า Consensus 24.9 บาท) แนวรับ 17.9 บาท / แนวต้าน 18.4-19.0 บาท (Stop loss 17.4 บาท)
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) แนวรับ 13.5 บาท / แนวต้าน 14.0-14.3 บาท (Stop loss 13.1 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • GPSC* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 79 บาท รายงานกำไร 2Q65 = 684 ล้านบาท (+118% QoQ, -70% YoY) ดีกว่าคาด และคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q65 จะเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วง High season ของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ได้ค่า Ft เฉลี่ยเพิ่มขึ้น และผลการดำเนินงานของ Avaada ดีขึ้น
  • IVL* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 53 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 2Q65 = 1.58 หมื่นล้านบาท (+89% YoY, +12% QoQ) โดยกำไรที่คาดจะดีขึ้นจากการรับรู้กำไรเต็มไตรมาสจาก Oxiteno และมีกำไรสต๊อก อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 53 บาท (เดิม 59 บาท) จากการปรับลดเป้าหมาย EV/EBITDA ลง สะท้อนการผ่านช่วง High season ของ PET ไปแล้ว และกำไรที่คาดจะชะลอตัวลงในปีหน้า
  • TNP แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 4.8 บาท รายงานกำไร 2Q65 = 34 ล้านบาท (-24% YoY, -6% QoQ) ต่ำกว่าคาด -10% จากค่าใช้จ่าย SG&A สูงเกินคาด ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 4.8 บาท (เดิม 5.8 บาท) อย่างไรก็ดี คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวใน 2H65 จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”
  • MAKRO* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 40 บาท รายงานกำไร 2Q65 = 1.6 พันล้านบาท (+22% YoY, -23% QoQ) แม้รายได้เริ่มฟื้นตัวตามคาด แต่ต้นทุนรายจ่ายปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินเป็นโอกาสสะสมหุ้นสำหรับการลงทุนระยะยาว
- Advertisement -