บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Indorama Ventures (IVL.BK/IVL TB)*

ประมาณการ 2Q65F: อุปสงค์ PET สูงตามฤดูกาล

Event

ประมาณการ 2Q65F, ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565/66F แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลง

Impact

คาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q65F จะเพิ่มขึ้น 89% YoY และ 12% QoQ

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ IVL ใน 2Q65F จะอยู่ที่ 1.58 หมื่นล้านบาท (+89% YoY, +12% QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จะเป็นเพราะ i) เป็นไตรมาสแรกที่รับรู้กำไรเต็มไตรมาสจาก Oxiteno หลังจากที่บริษัทซื้อกิจการเสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 และ ii) มีกำไรจากสต็อกเพิ่มขึ้น โดยเราคาดว่าบริษัทจะบันทึกกำไรจากสต็อกเพิ่มขึ้น 219% YoY และ 25% QoQ เป็น 5.5 พันล้านบาท เนื่องจากราคาวัตถุดิบ PX สูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ใน 2Q65 spread ของ PTA ในซีกโลกตะวันตกลดลง 1% QoQ เหลือ US$487/ton แต่ในซีกโลกตะวันออกเพิ่มขึ้น 7% QoQ เป็น US$106/ton ในขณะที่ spread ของ PET ในซีกโลกตะวันตกลดลง 2% QoQ เหลือ US$390/ton และในซีกโลก ตะวันออกลดลง 5% QoQ เหลือ US$196/ton แต่อย่างไรก็ตาม spread ของทั้ง PTA และ PET ในทั้งสองซีกโลกยังอยู่ในระดับที่ดี เพราะไตรมาสที่สองเป็นช่วงที่อุปสงค์สูงสุดตามฤดูกาล ดังนั้นเราคาดว่า EBITDA margin ของธุรกิจหลักของ IVL จะลดลงเล็กน้อย 2% QoQ เหลือ US$169/ton ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าปริมาณยอดขายรวมจะเพิ่มขึ้น 3% QoQ เป็น 3.92 ล้านตัน เนื่องจาก i) อุปสงค์ที่แข็งแกร่งของ PTA และ PET และ ii) รับรู้ผลการดำเนินงานของ Oxiteno เป็นครั้งแรก

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565/66F ขึ้นอีก 74%/24%

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ขึ้นอีก 74% เป็น 4.46 หมื่นล้านบาท และปีหน้าขึ้นอีก 24% เป็น 2.49 หมื่นล้านบาท เนื่องจาก i) spread ของ PTA และ PET ดีขึ้น และ ii) มีกำไรจากสต็อกเพิ่มขึ้น โดยเราได้ปรับเพิ่มสมมติฐาน spread ของ PTA ในซีกโลกตะวันตกปีนี้ขึ้นอีก 37% เป็น US$410/ton และปี หน้าขึ้นอีก 25% เป็น US$250/ton เนื่องจาก i) อุปทานลดลงจากนโยบายการควบคุมสองทางของจีน และ ii) อุปทานในยุโรปดึงตัวขึ้นจากอัตราค่าระวางจากเอเชียไปยุโรปที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ เรายังปรับเพิ่มสมมติฐาน spread ของ PET ในซีกโลกตะวันตกและตะวันออกขึ้นอีก 14-33% เป็น US$350/200/ton ในปี 2565F และ US$285/170/ton ในปี 2566F ตามลำดับ ดังนั้นเราจึงปรับเพิ่ม EBITDA margin ของธุรกิจหลักของ IVL ในปี 2565F ขึ้นอีก 23% เป็น US$150/ton และปี 2566F ขึ้นอีก 11% เป็น US$126/ton เรายังคาดว่าบริษัทจะบันทึกกำไรจากสต็อกในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 7.7 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 284%) และจะบันทึกผลขาดทุนจากสต็อกในปีหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 2.9 พันล้านบาท หลังจากที่เราสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2565-66F จากเดิมที่ US$90/75/bbl เป็น US$100/85/bbl ตามลำดับ

Valuation & Action

เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 53.00 บาท ลดลงจากเดิมที่ 59.00 บาท โดยอิงจาก EV/EIBTDA ที่ลดลงเหลือ 8.5x จากเดิมที่ 9.5x เพื่อสะท้อนถึงการผ่านช่วงที่อุปสงค์ PET สูงตามฤดูกาลใน 2Q65 ไปแล้ว และแนวโน้มกำไรที่คาดว่าจะลดลง 44% YoY ในปีหน้า ในขณะเดียวกันเรายังคงคำแนะนำซื้อ IVL เนื่องจากคาดแนวโน้มกำไรยังโต YoY ใน 2H65

Risks

ความผันผวนของ spread ของ MEG, PTA, PET, fiber และ integrated oxides & derivatives

- Advertisement -