บล.พาย:

ILM: บมจ.อินเด็กซ์ลิฟวิ่ง มอลล์ “กําไร 2Q22 แตะจุดสูงรอบ 11 ไตรมาส”

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 21.00 บาท กำไรสุทธิ 2Q22 ที่ 162 ล้านบาท (+61%YoY, +1%QoQ) สูงสุดในรอบ 11 ไตรมาส และดีกว่าคาด กำไร 1H22 คิดเป็น 55% ของประมาณการปี 2022 การเติบโต YoY และ QoQ ได้แรงหนุนจากอัตรากำไรที่แข็งแกร่งและอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ +3.4%YoY คาดกำไร 3Q22 จะโต YoY หนุนจากการฟื้นตัวของ SSSG ที่แข็งแกร่งจากฐานต่ำ และจากอัตรากำไรที่สูงขึ้น

อัตรากำไรแข็งแกร่งหนุนกำไร 2Q22 โต YoY

  • กำไรสุทธิ 2Q22 อยู่ที่ 162 ล้านบาท (+61%YoY, +1%QoQ) สูงสุดในรอบ 11 ไตรมาส กำไร 1H22 คิดเป็น 55% ของประมาณการกำไรปี 2022
  • การเติบโต YoY และ QoQ ใน 2Q22 หนุนจากอัตรากำไรที่แข็งแกร่ง และ SSSG ที่ +3.4%YoY
  • รายได้ 2Q22 อยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท (+5%YoY, +1%QoQ) หนุนจาก +3.4%YoY ถ้าไม่รวมยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน SSSG จะอยู่ที่ +12.6%YoY ขณะที่ยอดขายงานโครงการพุ่งขึ้นเป็น 167 ล้านบาท (+60%YoY, +42%QoQ) ยอดขายออนไลน์ลดลงเหลือ 223 ล้านบาท (-6% YoY)
  • อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ 46.3% (+230bps YoY, +10bps QoQ) การเติบโตในเชิง YoY และ QoQ เป็นผลมาจากส่วนผสมรายได้ที่ดีขึ้น หลังจากยกเลิกการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนภายใต้แบรนด์ “Power One” และเพิ่มราคาขายขึ้น
  • อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายยังอยู่ในระดับจัดการได้ที่ 36% (+30bps YoY, ทรงตัว QoQ) สืบเนื่องจากการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

ภาพรวมกำไรที่สดใส

  • SSSG ที่ไม่รวมยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนในเดือน ก.ค. 2022 ยังแข็งแกร่งที่ +40%YoY
  • บริษัทมีแผนขยายสาขา 1 แห่ง (+3%YoY) ใน 4Q22 หลังไม่มีการเปิดสาขาใหม่เลยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
  • คาดกำไรโตเป็น 755 ล้านบาท ในปี 2024 หรือโตเฉลี่ยต่อปีที่ +19% (2002-24) จาก -5% (2019-21) หนุนจาก 1) SSSG ที่ฟื้นตัวขึ้น 2) การขยายสาขาใหม่ 3) การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และ 4) รายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจาก COM7 และพื้นที่เช่าใหม่

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 21.00 บาท

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 21.00 บาท อิง 18xPE’22E หรือคิดเป็นอัตราคิดลด 40% ต่อค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย

Revenue breakdown

รายได้การขายผ่านร้านค้าปลีกคิดเป็น 75% ของรายได้รวม ILM ประกอบธุรกิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านร้านค้าของตัวเอง ที่เป็นแหล่งรวมสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งบ้านและสำนักงาน รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ในบ้าน

  • บริษัทยังมีการจัดจำหน่ายสินค้ารูปแบบ e-commerce ผ่านเว็บไซต์ของตัวเองอีกด้วย ซึ่งยอดขายออนไลน์นั้นคิดเป็น 13% ของยอดขายรวม
  • ธุรกิจขายงานโครงการคิดเป็น 7% ของรายได้รวม โดยมีการจัดจำหน่ายสินค้าที่ผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • นอกจากนี้ยังมีการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ (4% ของรายได้รวม) ผ่านสาขาแฟรนไชส์และตัวแทนจำหน่าย ทั้งยังรับจ้างผลิต (OEM) งานโครงการให้กับลูกค้าในปากีสถาน เมียนมา เวียดนาม และอินโดนีเซีย บริษัทมีดีลเลอร์ภายในประเทศ 25 รายที่กระจายอยู่ตามเมืองหลักๆ ที่ส่วนใหญ่จะจำหน่ายสินค้าแบรนด์ WINNER (1% ของรายได้รวม)
- Advertisement -