บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/65 มีกำไร 25,326.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,093% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่กำไร 2,122.67 ล้านบาท
โดยไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้จากการขาย 65,772 ล้านบาท ตามราคาขายที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 20.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากส่วนต่างราคาน้ำมัน หลังหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง อีกทั้งธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาดมีกำไรขั้นต้นสูงขึ้น จากอุปสงค์ของสาร LAB ที่ดีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์มีกำไรจำกสต๊อกน้ำมันเพิ่มขึ้น 3,774 ล้านบาท
ส่วนงวด 6 เดือนมีกำไร 32,509.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 493% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 5,482.68 ล้านบาท โดยงวดครึ่งปีแรก กลุ่มไทยออยล์มีรายได้จากการขาย 258,397 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106,827 ล้านบาท สาเหตุหลักจากราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ และมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 22,029 ล้านบาท สูงขึ้น 13,590 ล้านบาท
ส่วนในครึ่งปีหลัง TOP ประเมินว่า ราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 3/65 มีแนวโน้มปรับลดลงจากไตรมาส 2/65 หลังได้รับแรงกดดันจากความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงตามสภาวะเศรษฐกิจโลก เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อชะลอผลกระทบของเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจโลกที่เติบโตช้าลงกระทบกับราคาน้ำมันในไตรมาส 4/65 เช่นกัน
ส่วนธุรกิจโรงกลั่นในช่วงไตรมาส 3/65 มีแนวโน้มปรับลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/65 ตามภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีนยังมีความไม่แน่นอน แต่ในไตรมาส 4/65 มีแนวโน้มจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันโลก โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวและเทศกาลท่องเที่ยวปลายปี
*******