แนะทยอยลดพอร์ต หลังจากปัจจัยพื้นฐานยังไม่เห็นพัฒนาการเชิงบวก
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบเล็กน้อย 0.18% แต่ NASDAQ ลดลง 1.19% หลังจากบริษัทไมครอนเทคโนโลยีปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ จึงเกิดแรงกดดันในกลุ่มใกล้เคียงไปด้วย ขณะที่อีกนักลงทุนบางส่วนเลือกจะขายทำกำไรออกมาบางส่วนก่อนที่เงินเฟ้อสหรัฐฯ จะประกาศในคืนนี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT กลับมาปรับลดลง 0.4% หลังจากสื่อรายงานว่าอิหร่านและชาติมหาอำนาจใกล้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ หนุนอิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมัน
Market Outlook
เช้านี้เงินบาทเทียบสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งค่าต่อเนื่องทดสอบระดับ 35.35 บาท/ดอลลาร์ฯ นับเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 1 เดือน สอดคล้องกับทิศทางเม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยเมื่อวานนี้อีกราว 3.17 พันล้านบาท (วันก่อน 4.4 พันล้านบาท) ดังนั้นหากทิศทางเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่องก็เป็นไปได้ที่กระแสเงินทุนต่างชาติจะยังไหลเข้า ถือเป็นปัจจัยหนุนกับ SET INDEX ส่วนวันนี้ประเมิน SET INDEX ปรับตัวลงในกรอบ 1608 – 1617 แม้ แม้เชื่อว่าจะมีแรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติ แต่เชื่อว่าแรงกดดันรอบด้านจะมีน้ำหนักมากกว่า อาทิ ตลาดหุ้น Nikkei ที่เช้านี้ แกว่งลบ 0.9% กลุ่มพลังงานที่มีโอกาสถูกทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับลดลง ขณะที่ SET INDEX ฟื้นตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุด 5.5% นับว่าสะท้อนปัจจัยบวกไปค่อนข้างเยอะ (ผ่อนคลายดอกเบี้ยหลังจากตลาดคาดเงินเฟ้อโลกผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว) นอกจากนี้ยังมีจุดสังเกตุคือวานนี้ สถาบันและรายย่อยในประเทศขายสุทธิ สะท้อนถึงความไม่มั่นใจของนักลงทุนภายในประเทศ ขณะเดียวกันด้วยภาวะ Inverted Yield Curve ที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯบ่งชี้ว่าเม็ดเงินยังกระจุกอยู่ในสินทรัพย์ปลอดภัย ด้านกำไรบริษัทจดทะเบียน 2Q22 สำหรับ SET100 ที่ประกาศออกมาแล้ว 31 บริษัทพบว่าที่ดีกว่าตลาดคาดหมายไว้ (มากกว่าคาด 10%) มีเพียง 5 บริษัทหรือคิดเป็นเพียง 16% สะท้อนว่าปัจจัยพื้นฐานก็ดูจะไม่ได้โดดเด่นเท่าใดนัก สำหรับประชุม กนง. ในวันนี้ ตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% แต่เชื่อว่าผลกระทบต่อการลงทุนจํากัด เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้ เชิงกลยุทธ์การลงทุนแนะทยอยลดพอร์ตการลงทุนจากสถานการณ์ที่ยังไม่ชัดเจนในหลายๆ ปัจจัย ส่วนการลงทุนระยะสั้นแนะเริ่มพิจารณามากขึ้นเน้นหุ้นที่ยัง Laggard อาทิ ค้าปลีก (CPALL DOHOME) ธนาคาร (BBL KBANK TTB TISCO) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) โรงพยาบาล (BCH)
Pi Stock Picks
BCH (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 21.00 บาท)
แม้คาดกำไรปี 2022 จะกลับสู่ระดับปกติใน 2H22 จากส่วนแบ่งเคสโควิด-19 ที่ลดลง และน่าจะน้อยลงยิ่งขึ้นในปี 2023 แต่แนะนำ “ซื้อ” เพราะคาดถึงกำไรธุรกิจหลักที่แข็งแกร่งในปี 2022/23 (สูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ถึง 2.2 เท่าและ 1.8 เท่า ตามลำดับ)
ADVANC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 246.00 บาท)
เชื่อว่ายอดขายจะโตดีขึ้นใน 2H22 เพราะ 1) การขยายกิจการบรอดแบนด์ไปยังพื้นที่ชนบทใหม่ที่มีการแข่งขันต่ำ 2) การที่บริการคลาวด์ และ Disney Plus ยังมีอุปสงค์แข็งแกร่งต่อเนื่อง และ 3) คาดสงครามราคาจะไม่แย่ไปกว่าสถานการณ์ปัจจุบัน