บล.พาย: 

TOP: บมจ. ไทยออยล์ “ผลงานโรงกลั่นที่ดีและกำไรพิเศษช่วยหนุนกำไร 2Q22”

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 71.0 บาท กำไรสุทธิ 2Q22 โต 10 เท่า YoY และ 2.5 เท่า QoQ เป็น 2.53 หมื่นล้านบาท แตะจุดสูงใหม่สําหรับกำไรรายไตรมาส โดยมีแรงหนุนจาก 1) ผลงานในธุรกิจโรงกลั่นที่แข็งแกร่ง จากค่าการกลั่นที่พุ่งขึ้นที่ไปช่วยชดเชยส่วนแบ่งที่อ่อนแอในธุรกิจปิโตรเคมีได้ และ 2) กำไรพิเศษ 1.73 หมื่นล้านบาท จากการขายหุ้นใน GPSC คาดกำไร 2H22 ชะลอลง HoH จากค่าการกลั่นที่ลดลงจากยอดสูงใน 2Q22 แต่ยังแข็งแกร่ง YoY บริษัทประกาศให้วันที่ 19 ส.ค. เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท (จะแล้วเสร็จใน 3Q22) ขณะที่กำไรจากการลงทุนในโครงการ CAP จะทำให้มี Dilution Effect สุทธิต่ำกว่า 5% จึงไม่มีนัยต่อคำแนะนำและมูลค่าพื้นฐาน

ผลงานที่แข็งแกร่งในธุรกิจโรงกลั่นช่วยขับเคลื่อนกำไร 2Q22

  • กำไรสุทธิ 2Q22 โต 10 เท่า YoY และ 2.5 เท่า QoQ เป็น 2.53 หมื่นล้านบาท แตะจุดสูงใหม่สำหรับกำไรรายไตรมาส ดีกว่าตลาดคาดและสูงกว่าที่เราคาด 12%
  • หากไม่รวมรายการพิเศษ เช่น การขายหุ้นใน GPSC (1.73 หมื่นล้าน บาท) กำไรสต็อกน้ำมัน (7.6 พันล้านบาท) ป้องกันความเสี่ยง (-1.03 หมื่นล้านบาท) และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน (-1.3 พันล้านบาท) กำไรปกติจะอยู่ที่ 1.47 หมื่นล้านบาท (+10 เท่า YoY, +2.5 เท่า QoQ) การเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ได้แรงหนุนมาจากผลงานที่แข็งแกร่งของ ธุรกิจโรงกลั่น (จากค่าการกลั่นที่สูงเป็นประวัติการณ์) ที่ช่วยชดเชยส่วนแบ่งที่อ่อนแอในธุรกิจปิโตรเคมี
  • ค่าการกลั่นพุ่งแตะ US$25.1/bbl จาก US$0.4/bbl ใน 2Q21 และ US$6.4/bbl ใน 1Q22 หนุนจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นสูง จากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมียังมีผลขาดทุนต่อเนื่อง (จากกำไรใน 2Q21) สืบเนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนแอที่ถูกฉุดลงจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนแอ

คาดค่าการกลั่นจะลดลงใน 3Q22 และฟื้นตัวใน 4Q22

คาดกำไร 2H22 จะอ่อนตัวลง HoH แต่ยังแข็งแกร่ง YoY สืบเนื่องจากแนวโน้มค่าการกลั่นที่ชะลอลงจากยอดสูงใน 2Q22 ขณะที่ค่าการกลั่น อ้างอิงสิงคโปร์ลดลงเหลือ US$10.7/bbl QTD ใน 3Q22 จาก US$21.4/bbl ใน 2Q22 แต่ยังสูงกว่า US$3.5/bbl ในปี 2021 ขณะที่ภาพรวมใน 4Q22 ยังสดใสจากอุปสงค์ที่สูงขึ้นเพราะเป็นช่วงหน้าหนาว

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 71.00 บาท

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 71.00 บาท อิง 0.9xPBV’23E คิดเป็น -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี ทั้งนี้ บริษัทประกาศให้วันที่ 19 ส.ค. 2022 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท (เลื่อนจากเดือน มิ.ย.)

กำไร 2Q22 พุ่งสูงขึ้น 10 เท่า YoY และ 2.5 เท่า QoQ

  • กำไรสุทธิ 2Q22 โต 10 เท่า YoY และ 2.5 เท่า QoQ เป็น 2.53 หมื่นล้านบาท แตะจุดสูงใหม่สำหรับกำไรรายไตรมาส ดีกว่าตลาดคาดและสูงกว่าที่เราคาด 12%
  • หากไม่รวมรายการพิเศษ เช่น การขายหุ้นใน GPSC (1.73 หมื่นล้านบาท) กำไรสต็อกน้ำมัน (7.6 พันล้านบาท) ป้องกันความเสี่ยง (-1.03 หมื่น ล้านบาท) และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน (-1.3 พันล้านบาท) กำไรปกติจะอยู่ที่ 1.47 หมื่นล้านบาท (+10 เท่า YoY, +2.5 เท่า QoQ) การเติบโต ทั้ง YoY และ QoQ ได้แรงหนุนมาจากผลงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจโรงกลั่น (จากค่าการกลั่นที่สูงเป็นประวัติการณ์) ที่ช่วยชดเชยส่วนแบ่งที่อ่อนแอในธุรกิจปิโตรเคมี
  • ธุรกิจโรงกลั่น: ค่าการกลั่นพุ่งแตะ US$25.1/bbl จาก US$0.4/bbl ใน 2Q21 และ US$6.4/bbl ใน 1Q22 หนุนจากส่วนต่างราคาเบนซิน ดีเซล และเชื้อเพลิงอากาศยานที่เพิ่มขึ้นสูง ขณะที่อัตราการกลั่นก็ฟื้นตัวสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 ที่ 308kbd (+14% YoY, +3% QoQ) จากอุปสงค์ในประเทศที่ปรับดีขึ้น
  • ธุรกิจปิโตรเคมี (อะโรเมติกส์และโอเลฟินส์) ยังมีผลขาดทุนต่อเนื่อง (จากกำไรใน 2Q21) สืบเนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนแอที่ถูกฉุดลงจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนแอ ขณะที่ส่วนแบ่งจากโครงการ LAB และธุรกิจโรงไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้น QoQ

Revenue breakdown

การดำเนินงานหลักของบริษัทคือธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจอื่นๆ ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น ปิโตรเคมี การผลิตไฟฟ้า และการขนส่งทางทะเล โดยบริษัทมีกำลังการกลั่น 2.75 แสนบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยและคิดเป็น 22.5% ของกำลังการกลั่นในประเทศ นอกจากนี้บริษัทยังถือหุ้น 20% ใน GPSC (ซึ่งเป็นของกลุ่มปตท.) ที่ช่วยสร้างส่วนแบ่งกำไรที่มีความมั่นคง โดยรายได้หลักของบริษัทมาจากแหล่งต่างๆ ดังนี้

โรงกลั่น (สัดส่วนที่ 55% ของ EBITDA รวม)

อะโรเมติกส์และห้องปฏิบัติการ (สัดส่วนที่ 18% ของ EBITDA รวม)

น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน (สัดส่วนที่ 17% ของ EBITDA รวม)

การผลิตไฟฟ้า (สัดส่วนที่ 6% ของ EBITDA รวม)

สารทำละลาย (สัดส่วนที่ 4% ของ EBITDA รวม)

อื่นๆ (สัดส่วนที่ 1% ของ EBITDA รวม)

- Advertisement -