Trading Range: มีพักบ้าง 1600-1625
PICKS OF THE DAY
MINT BUY
- คาด 2Q65 ทําสูงสุดของปี
- ลุ้นขยายวีช่าต่างชาติเป็น 45 วัน
M BUY
- คาดกำไร 2Q65 ฟื้นตัวทั้ง y-y.
- หนึ่งในร้านอาหารที่ต้องมาในเทศกาลสําคัญ
ตลาดหุ้นวันนี้
- มีพักบ้าง: แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้มองจะพักฐานในกรอบ 1600-1625 จุด หลังการปรับขึ้นมาแล้วมากกว่า 85 จุด นับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนก่อน อีกทั้งมีแรงกดดันจากบรรยากาศลงทุนเชิงลบในตลาดภูมิภาคหลังการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐ นำโดยดัชนี Nasdaq ที่ดิ่งหนักกว่า 1.19% หลังหลายบริษัท (Micron, Novavax, Upstart) แจ้งเดือนรายได้และผลประกอบการในอนาคตอาจต่ำกว่าที่เคยคาด โดยเฉพาะ Micron Technology ที่มองกระแสเงินสดของบริษัท อาจติดลบจากอุปสงค์ในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และอุปสงค์ในชิปที่ลดลง โดยประเด็นหลักที่นักลงทุนในตลาดจะให้น้ำหนักจับตามองในวันนี้ คือ 1) การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. พร้อมจับสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีที่มีการประชุมอีก 2 ครั้ง และ 2) ทิศทางอัตราเงินเฟ้อสหรัฐในคืนนี้ เพื่อจับสัญญาณการพีคของระดับเงินเฟ้อสหรัฐว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด จากตัวเลข CPI เดือน ก.ค. ที่ตลาดคาดจะอยู่ที่ 8.7% ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ 9.1% ขณะที่ตัวเลข Core CPI ยังคาดเดินหน้าปรับขึ้นต่อเนื่องที่ 6.1% จากเดือนก่อนหน้าที่ 5.9%
- กลยุทธ์การลงทุน: ทางฝ่ายยังชอบ 1) หุ้นเปิดเมือง/ประเทศ เช่น M, CENTEL, ERW, MINT, AOT, CPALL 2) หุ้นกลุ่มธนาคารรับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น เช่น KBANK, BBL, KTB, BAY 3) หุ้นที่ประกาศผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด (BB Consensus) เช่น ITEL, WICE, SPALI, LPH
- ธนาคารขึ้นมาแล้ว ก่อนผลประชุม กนง.จะออก เรามีมุมมองอย่างไร: ในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา ดัชนีกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นกว่า 3.6% เนื่องจากได้รับประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ท่ามกลางมุมมองว่ากนง. มีแนวโน้มจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.25% ทางฝ่ายมองแม่กลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นมาแล้วจึงอาจทำให้อัตราเร่งเริ่มชะลอลง แต่ยังมองเป็นโอกาสการสะสมที่น่าสนใจ ด้วยมุมมองว่าหุ้นกลุ่มธนาคารยังคงมีโอกาสฟื้นตัวทางขึ้นได้ต่อ ด้วยแรงหนุนจากภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง หากภาพการท่องเที่ยวซึ่งมีสัดส่วนสูงราว 16% ของ GDP (ปี 62) มีการเร่งตัวขึ้นตามคาด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะหาจุดพีคได้ในช่วงไตรมาส 3 นี้
- ปัจจัยอื่นที่น่าสนใจ: 1) ตัวเลข CPI และ PPI จีน คาดขยายตัว 2.9% และ 4.8% y-y ตามลำดับ 2) ราคาน้ำมันดิบ WTI แกว่งตัวออกด้านข้างหลัง API รายงานคลังน้ำมันดิบสหรัฐในสัปดาห์ก่อนออกมาที่ 2.2 ล้านบาร์เรลสูงกว่าคาดมาก แต่ด้านยูเครนได้เริ่มระงับการส่งน้ำมันผ่านท่อ Druzhba ไปยุโรปหลังแจงไม่ได้รับการชำระค่าส่งจากรัสเซียหลังเผชิญการคว่ำบาตรจากยุโรป และ 3) 2-10 yr yield curve ของสหรัฐที่อยู่ในภาวะ invert ต่อเนื่องถึง -0.5% ยังสะท้อนภาพ Recession