SET พักตัว Upside เริ่มจํากัด // ติดตามประชุมกนง.และตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ
ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ระดับ 1,618.80 จุด เพิ่มขึ้น 9.93 จุด (+0.62%) มูลค่าการซื้อขาย 57,673.66 ล้านบาท คลายกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเงินทุนต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์และกลุ่มพลังงานบางตัว และ DELTA
แนวโน้มตลาดวันนี้…
- ประเมิน SET Index: แนวโน้มปรับตัวลงพักฐานหลัง Slow stoc. แกว่งตัวขึ้นในภาวะ Overbought (%K=95,%D=90.9) ทำให้ upside เริ่มจำกัด ในระยะสั้น เน้นยืนแนวรับในกรอบ 1612-1606 ไม่ควรต่ำกว่าเพื่อคงโมเมนตัมบวก แนวต้านทดสอบ 1622/1628
- เงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง : โดยค่าเงินบาทที่แข็งค่ากว่าในรอบ 1 เดือน ทำให้ fund flow ไหลเข้าตลาดหุ้นบ้านเรา (ต่างชาติซื้อสุทธิ 3.18 พันล้านบาท ขณะที่ MTD ซื้อสุทธิ 1.18 หมื่นล้านบาท) เป็นบวกต่อหุ้น Big cap. แต่อย่างไรก็ดี SET ที่ปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำก่อนหน้านี้ 6.62% (@1517.51 จุด 15 ก.ค. 65) สะท้อน ภาพปัจจัยลบไปพอสมควร ทั้งภาวะเงินเฟ้อที่คาดว่าจะผ่านจุดพีค ตามราคาพลังงานที่ลดลง ค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่า และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่มีแนวโน้มปรับขึ้นในอัตราที่ลดลง
- จับตารายงานตัวเลข CPI ก.ค. สหรัฐ: โดยคาดว่าจะขยายตัว 8.7%YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ระดับ 9.1%YoY หากออกมาตามคาดจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเฟดมีแนวโน้มจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งสุดท้ายในการประชุม 20-21 ก.ย. ก่อนที่จะปรับระดับเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลงในรอบที่เหลือของปี ซึ่งสะท้อนภาพแนวโน้มเงินเฟ้อที่ได้ผ่านจุดพีคไปแล้ว
- ประชุมกนง.คาดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% สู่ระดับ 0.75% แต่มติไม่เป็นเอกฉันท์: ซึ่งเรามองว่าตลาดรับรู้ประเด็นนี้ไปพอสมควรแล้ว จาก SETBANK ที่ปรับตัวขึ้นมากว่า 2.3%YTD แต่ทั้งนี้ต้องติดตามทิศทางดอกเบี้ย และมุมมองเศรษฐกิจในประเทศหลังมีหลายสำนักศก. ปรับประมาณการ GDP65 ขึ้น ขณะที่เรามองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะไม่เป็นเอกฉันท์ เนื่องมีคณะกรรมการบางท่านสนับสนุนให้ปรับขึ้นสูงถึง 0.5% เพื่อลดผลกระทบจากการใช้นโยบายการเงินที่ Dovish มากเกินไป ซึ่งไม่ได้ทำให้การคาดการณ์เงินเฟ้อในอนาคตลดลง
- สัปดาห์นี้ติดตาม: ประกาศงบ2Q65, MSCI rebalance (คาด KBANK ได้รับการเข้าคำนวน), ประชุมร่วมรัฐสภา 10 ส.ค. เกี่ยวกับร่างกม.ลูกเลือกตั้ง ส.ส.
- กลยุทธ์การลงทุน: เราชอบกลุ่ม Anti commodity (SCGP BGRIM GPSC GULF III AJ TASCO), Technology (BBIK IIG MFEC DITTO), Bank (KBANK BBL SCB KKP) และ Commerce (SVT SINGER CPALL MAKRO COM7 DOHOME)
เคาะไป คุยไป MAKRO
Investment Highlights
- MAKRO รายงานงบ 2Q65 มีกำไรสุทธิ 1.57 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2%YoY และงวด 1H65 มีกำไรสุทธิ 3.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.9%YoY จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ทำให้กลุ่มค้าส่งแม็คโครเติบโตได้จากธุรกิจร้านอาหาร โรงแรมที่กลับมาฟื้นตัว ประกอบกับการเติบโตของยอดขายจากทั้งสาขาเดิม และการเปิดสาขาใหม่ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะแม็คโคร กัมพูชา ที่มีผลประกอบการเป็นบวกมาหลายไตร มาส รวมถึงธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มค้าปลีกโลตัสมีการรีแบรนด์สาขา การพัฒนาสินค้าอาหารสด รวมทั้งการเปิดตัวแพลตฟอร์มจัดจำหน่ายออนไลน์ “โลตัส สมาร์ท แอปพลิเคชั่น” ที่ช่วยหนุนยอดขายรวมในงวดเติบโตกว่า 115.6%YoY
- ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.18 บาท/หุ้น XD 22 ส.ค. คิด เป็น dividend yield ที่ 1.46%
- ในเชิง Sentiment เราชอบ MAKRO ในแง่ผู้นำตลาดธุรกิจค้าส่ง ที่มุ่งเน้นสินค้าอาหารสด และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ สะท้อนผ่าน GPM ที่ปรับตัวขึ้นโดยงวด 1H65 อยู่ที่ระดับ 14.1% ขณะที่ 1H64 อยู่ที่ 9.8% ซึ่งเป็นผลมาจากการควบรวมโลตัสเข้ามา ซึ่งช่วยทั้งการขยายฐานรายได้กลุ่มลูกค้า และประสิทธิภาพใน การสร้างกำไรให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์ทางอ้อมจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ รวมถึงราคาปัจจุบันค่อนข้าง laggard ตลาดอยู่มาก (-19%YTD) มีโอกาสที่นลท. ต่างชาติจะกลับเข้ามา ซื้อ หลังค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่า
Investment Strategy
Source : Aspen
แนะนำ “เคาะ” ระยะสั้นแท่งเทียนแกว่งตัวสร้างฐานแนวรับสำคัญในกรอบ 34-33.75 อย่างมีนัยสำคัญ แนวโน้มมีโอกาสกลับตัวขึ้นจากสัญญาณบวก แท่งเทียนปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ค่าสัญญาณ Slow Sto. และ RSI ที่ตัด Signal ขึ้นมา แนวต้านจุดทดสอบ Double Top รอบก่อนหน้า 36.00 และแนวต้านจุดสูงเดิม 37.50
คําแนะนําของ ASL
กรณี “มีหุ้น” ถือ เพิ่มการลงทุน/แนวต้าน 36/37.50 มีโอกาสทดสอบ
กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 34-33.75 ไม่ควรต่ำกว่า
กระแสข่าวหุ้น
ประเด็นบวก
- SCC ส่งซิก Q3 ฟื้น ปัจจัยบวกเพียบ หนุนดีมานด์พุ่ง – SCC คาดไตรมาส 3/65 สดใส รับปัจจัยบวกหนุนเศรษฐกิจในประเทศฟื้น การท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก พร้อมลุ้นจีนเปิดประเทศมากขึ้นกระตุ้นดีมานด์เพิ่ม ขณะที่โครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ (LSP) ที่เวียดนาม จ่อเดินเครื่องในช่วงครึ่งแรกปี 66
- SABUY กำไร Q2 โต 657% การันตีรายได้ปีนี้ 5 พันล้าน – SABUY ฟอร์มสวย! ไตรมาส 2/65 เบ่งกำไรสุทธิ 356 ล้านบาท พุ่งกระฉูด 656.6% หนุนครึ่งปีแรกฟันกำไรสุทธิ 464 ล้านบาท โตสนั่น 473% พร้อมโกยรายได้ 1,491 ล้านบาท “ชู เกียรติ” มั่นใจรายได้ปีนี้ 5,000 ล้านบาท ปักธงปีหน้ารายได้ ยืน 20,000 ล้านบาท ฟากโบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 50 บาท หลังกำไรไตรมาส 2/65 ดีกว่าคาด
- AP โชว์ครึ่งแรกกำไร 3,303 ล. โต 31% ครึ่งหลังจ่อเปิด 40 โครงการ มูลค่า 5 หมื่นล้าน – “เอพี” อวดผลงานไตรมาส 2/65 กำไรสุทธิ 1,573.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.2% ดันครึ่งปีแรกเบ่งกำไรสุทธิ 3,303.84 ล้านบาท โต 31% มั่นใจยอดโอนปีนี้ตามนัด 47,000 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อกแน่น 33,637 ล้านบาท จ่อโอน 2 คอนโดมิเนียมใหม่ในไตรมาส 3/65 เดินหน้าเปิดใหม่ 40 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 50,870 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง
- TU ปักธงยอดขายปีนี้โต 10-12% ดัน ‘ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น เข้าตลาดหุ้น – TU อัพเป้ายอดขายปีนี้โต 10-12% หลังกลุ่มอาหารแช่แข็งเทิร์นอะราวด์ พร้อมคาดผลงาน Red Lobster ครึ่งปีหลังดีขึ้น เดินหน้าดัน “ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น” ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงเข้าตลาดหุ้นภายในปีนี้
ประเด็นลบ
- ส่งออกเอเชียเสี่ยงสูงศก.คู่ค้าชะลอ เงินเฟ้อที่พุ่งสูง ส่งผลให้ต่างประเทศลดกำลังการผลิต – บรรดาผู้ส่งออกจากเอเชียกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหม่ หลังเศรษฐกิจของตลาดคู่ค้าสำคัญอย่าง สหรัฐฯ ยุโรป และจีน เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว
- งบรัฐปี 65 เบิกจ่ายไม่รื่น ใกล้ปิดหีบได้แค่ 60.7%/รสก. AOT ช้าสุด – ผลเบิกจ่ายงบประจำปีงบประมาณ 2565 ถึงวันที่ 18 พ.ค. ยังห่างเป้า ทําได้แค่ 2,464,723 ล้านบาท จากแผน 4,060,682 ล้านบาท คิดเป็น 60.70% หลังพบอุปสรรคด้านการประมูลโครงการ ด้านรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนล่าช้า นำโดย AOT และองค์การเภสัชกรรม
XD Events
Source : SETSMART
GLOBAL MARKET
Source : NewsCenter