บล.บัวหลวง:

Next Capital (NCAP TB/NCAP.BK)

NCAP – ขาดทุนกว่าคาดมาก ตั้งสำรองมากกว่าที่เราคาด

กําไรต่ำกว่าที่เราคาด 85%

NCAP รายงานกําไรไตรมาส 2/65 ที่ 13 ล้านบาท ลดลง 81.6% YoY และ 79.3% QoQ ซึ่งต่ำกว่าที่เราคาด 85% เนื่องจากการตั้งสำรองที่มากกว่าคาด กำไรครึ่งแรกของปี 2565 คิดเป็นเพียง 20% ของประมาณการกำไร ทั้งปีเดิมของเราที่ 383 ล้านบาท

ประเด็นสําคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์

สินเชื่อเติบโต 71.2% YoY และ 12.8% QoQ โดย NIM อยู่ที่ 20.1% ในไตรมาส 2/65 ลดลง 178bps YoY และ 52bps QoQ ทั้งนี้ NCAP ตั้งสํารองที่ 241 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 179% YoY และ 53% QoQ โดยสัดส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.07% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2565 ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยจาก 1.44% ของสามเดือนก่อนหน้า บริษัทรายงานหนี้เสียที่ 152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.1% QoQ (คุณภาพสินทรัพย์ แย่ลง) อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญฯ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 337% ลดลงจาก 409% ณ สิ้นเดือน มี.ค.

รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 98 ล้านบาทในไตรมาส 2/65 เติบโต 24% YoY แต่ลดลง 10% QoQ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 187 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% YoY และ 5% QoQ จึงส่งผลให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายอยู่ที่ 42.1% ปรับตัวขึ้นจาก 40.7% ในไตรมาส 2/64 (แต่ลดลง จาก 42.7% ในไตรมาส 1/65)

แนวโน้ม

เราคาดกำไรไตรมาส 3/65 จะลดลง YoY (แต่ปรับตัวขึ้น QoQ เนื่องจากเราคาดการตั้งสํารองที่ลดลง)

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566 ลง 61% มาอยู่ที่ 148 ล้านบาท (ลดลง 52% YoY) เนื่องจากเราคาดการตั้งสำรองที่มากขึ้น (เราปรับขึ้นอัตราการตั้งสํารองจาก 8.5% ไปเป็น 12% ของสินเชื่อรวม เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์ที่แย่ลง) ดังนั้นราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 ของเราจึงลดลงจาก 8.4 บาท มาเหลือ 4.4 บาท อ้างอิงจาก PEG ที่ 1 เท่า (ค่าเฉลี่ยการเติบโตของกำไรปี 2566-67 ที่ 46.7% จากฐานที่ต่ำในปี 2565) และเราปรับค่าแนะนําลงจาก “ซื้อ” ไปเป็น “ขาย”

คําแนะนํา

แม้เราคาดจะเห็นสินเชื่อที่เติบโตแข็งแกร่งถึง 35% YoY ในปี 2566 แต่ปัจจุบันเราให้คำแนะนำ “ขาย” ต่อ NVAP เนื่องจากเรามีความคาดหวังต่อกำไรที่ลดลงอย่างมาก จากการตั้งสำรองที่หนักมาก ส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์ลดลง

 

- Advertisement -