บล.พาย:
WICE บมจ. ไวส์ โลจิสติกส์ “กําไรยังแข็งแกร่ง แต่พ้นยอดสูงแล้ว”
ลดคำแนะนำเป็น “ถือ” ลดมูลค่าพื้นฐานจาก 19.30 บาทเป็น 12.60 บาท หลังจากปรับลดประมาณการกำไรปี 2022-23 ลง 8%-15% คาดว่าการเติบโตของธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดนจะไม่สามารถชดเชยผลกระทบของค่า ระวางเรือที่ลดลงต่อเนื่องได้ (60% ของรายได้บริษัทเกี่ยวพันกับค่าระวางดังกล่าว) เพราะคาดว่าธุรกิจข้ามพรมแดนจะเผชิญปัญหาการปิดกั้นพรมแดนจีน ที่อาจจะขยายกรอบเวลาไปถึงปี 2023 จึงคาดว่ากำไรไม่น่าโตในปี 2022 และ 2023
กำไร 2Q22 ดีกว่าตลาดคาดหรือยู่ที่ 170 ล้านบาท
- กำไรสุทธิ 2Q22 อยู่ที่ 170 ล้านบาท (+52% YoY และ +8%QoQ)
- การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจากการเติบโตขึ้น 20% เป็น 2.0 พันล้านบาท ด้วยปัจจัยหนุนเฉพาะจากการขนส่งทางเรือ (+72%YoY เป็น 1.2 พันล้านบาท คิดเป็น 61% ของรายได้รวมใน 2Q22) หนุนจากค่าระวางเรือที่สูง และอุปสงค์ต่อสินค้าส่งออกที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะที่ไปยังสหรัฐฯ
- กำไรที่โตขึ้น QoQ เป็นผลจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ปรับดีขึ้นแตะจุดสูงรอบ 4 ไตรมาสที่ 17.3% หลังจากอัตรากำไรธุรกิจขนส่งทางเรือและอากาศยานโตขึ้นแตะจุดสูงรอบ 7 ไตรมาส
- ธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดน (16% ของรายได้รวม) แตะจุดสูงรอบ 7 ไตรมาสที่ 318 ล้านบาท (-32%YoY, -20%QoQ) เป็นผลจากแรงกดดันของการปิดพรมแดนจีนที่ทำให้ปริมาณขนส่งลดลงอย่างมาก
ค่าระวางเรือที่ลดลงต่อเนื่องอาจกดดันกำไร
ค่าขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางทะเลลดลง 13%QTD จากค่าเฉลี่ยใน 2Q22 (-36% จากยอดสูงในเดือน ก.ย. 2021) ตลาดคาดค่าระวางเรือ (60% ของรายได้บริษัทเกี่ยวพันกับค่าระวางดังกล่าว) จะค่อยๆ ลดลงหลังจากความกังวลด้านความแออัดของท่าเรือคลี่คลายลง โดยคาดว่าค่าระวางจะกลับสู่ระดับปกติใน 2H23 ขณะที่คาดว่ารายได้จากธุรกิจขนส่งทางเรือจะลดลง -2%YoY ในปี 2022 เป็น 3.7 พันล้านบาท และ -23%YoY ในปี 2023 เป็น 2.8 พันล้านบาท ถูกฉุดลงจากค่าระวางที่ลดลง แต่คาดปริมาณขนส่งโตต่อเนื่อง 40%YoY และ 10% ในปี 2022 และ 2023 ตามลำดับ (+92%YoY ใน 2021)
คาดว่าปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทอย่างธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดนและขนส่งทางอากาศยานจะไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากค่าขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่ลดลงได้ โดยธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดนไม่สามารถดำเนินงานได้เต็มศักยภาพ เพราะมาตรการปิดพรมแดนของจีนยังบังคับใช้อยู่ ขณะที่ประโยชน์จากการขยายเส้นทางใหม่ที่รวมถึงการขยายเพิ่มรอบการบริการ (+40%YoY ในปี 2021) และลูกค้าใหม่ที่จะทำการขนส่งสินค้าผ่านรถไฟความเร็วสูงลาว-จีนจะไม่เพียงพอต่อการชดเชยผลกระทบที่บริษัทเจอจากมาตรการโควิด-19 เป็นศูนย์ของจีน ที่อาจลากยาวไปถึงต้นปี 2023
คาดกำไรไม่โตในปี 2022-23
ลดคำแนะนำเป็น “ถือ” มูลค่าพื้นฐาน 12.60 บาท หลังจากปรับลดประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ลง 8% ในปี 2022 และ 15% ในปี 2023 มูลค่าพื้นฐานดังกล่าวอิง 15.8xPE’1H23E (-0.5S.D. ต่อค่าเฉลี่ย 5) คิดเป็นส่วนลด 70% ต่อค่าเฉลี่ยกลุ่มขนส่งไทย การปรับลด PE สะท้อนผลกระทบจากค่าระวางที่ลดลง ที่ไม่สามารถชดเชยได้ด้วยธุรกิจอื่น แต่ยังมี upside ที่อาจเกิดขึ้นจากแผนการทำ IPO บริษัท ETL (ธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดน) เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในปลายปี 2022
รีวิวผลประกอบการ
- กำไรสุทธิ 2Q22 อยู่ที่ 170 ล้านบาท (+52%YoY และ +8%QoQ)
- การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจากการเติบโตขึ้น 20% เป็น 2.0 พันล้านบาท ด้วยปัจจัยหนุนเฉพาะจากการขนส่งทางเรือ (+72%YoY เป็น 1.2 พันล้านบาท คิดเป็น 61% ของรายได้รวมใน 2Q22) หนุนจากค่าระวางเรือที่สูง และอุปสงค์ต่อสินค้าส่งออกที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะที่ไปยังสหรัฐฯ
- กำไรที่โตขึ้น QoQ เป็นผลจาก GPM ที่ปรับดีขึ้นแตะจุดสูงรอบ 4 ไตรมาสที่ 17.3% หลังจากอัตรากำไรธุรกิจขนส่งทางเรือและอากาศยานโตขึ้นแตะจุดสูงรอบ 7 ไตรมาส
- ปรับประมาณการกำไรปี 2022 ลง 8% และปี 2023 ลง 15% หลังจากปรับลดรายได้ปี 2022-23 ลง 12% และ 20% เป็น 7.2 พันล้านบาท และ 6.5 พันล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากคาดว่าผลกระทบจากค่าระวางเรือที่ลดลงต่อเนื่องจะไม่สามารถชดเชยได้ด้วยธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดนที่โตขึ้น เพราะต้องเผชิญกับปัญหาการปิดพรมแดนของจีน
Revenue breakdown
บริการขนส่งทางอากาศคิดเป็น 23% ของยอดขายทั้งหมด ภายใต้หน่วยธุรกิจนี้ WICE จะให้บริการด้านการจองระวางสายการบินและข้อตกลงด้านการขนส่ง โดยจะมุ่งเน้นการขนส่งผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ไปยังแหล่งการค้าของเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีน
ส่วนบริการขนส่งทางทะเลคิดเป็น 49% ของยอดขายทั้งหมด โดยจะคอยให้บริการด้านการต่อรองและจองระวางเรือจากสายการเดินเรือที่ดีที่สุด ทั้งรูปแบบการขนส่งแบบเต็มตู้คอนเทนเนอร์ (FCL) และแบบไม่เต็มตู้ (LCL) ซึ่งสินค้าขนส่งส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาการส่ง (lead time) ที่นาน เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และวัสดุก่อสร้าง ส่วนเส้นทางการขนส่งทางทะเลเส้นหลักของ WICE คือจากไทยไปยัง สหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น
บริษัทร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อก่อตั้งบริษัทย่อย ชื่อ ETL เพื่อดำเนินธุรกิจบริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย กัมพูชา ลาว เมียนมา และจีน ธุรกิจนี้คิดเป็น 25% ของรายได้รวม
นอกจากนี้ยังให้บริการด้านพิธีการศุลกากร ด้วยการจัดเตรียมเอกสารและการให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี พร้อมกับให้บริการขนส่งภายในด้วยรถพ่วงและรถตู้ รวมถึงบริการด้านคลังสินค้าในไทยด้วยเช่นกัน