บล.เอเซีย พลัส:

กำไร 2Q65 ตามคาดฟื้นต่อ 2H65

2Q65 กำไรสุทธิ 2.75 พันล้านบาท หากไม่รวมกำไรขายเงินลงทุนบริษัทร่วมให้กับ DUSIT (หลังภาษี) 276 ล้านบาท มีกำไรปกติตามคาด 2.47 พันล้านบาท (+6.4% qoq และ 115% yoy) จากการฟื้นตัวของทุกธุรกิจทั้งศูนย์การค้า โรงแรม อาหาร และอสังหาฯ เพื่อขาย ทำให้รายได้ดำเนินงานเพิ่ม 10% qoq และ 43% yoy และ มาร์จิ้นดีขึ้นตามการประหยัดต่อขนาด ด้านส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมจาก CPNREIT และเมกะ บางนา สูงขึ้น 12% qoq และ 153% yoy อยู่ที่ 384 ล้านบาท

คงกำไรปกติปีนี้ที่ 9.28 พันล้านบาท คาด 2H65 ยังเห็นทุกธุรกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังผู้คนในประเทศใช้ชีวิตปกติ และเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลบวกต่อ Traffic และการให้ส่วนลดค่าเช่าของศูนย์การค้า รวมถึงการเข้าพักของธุรกิจโรงแรมที่ดีขึ้น แนะนำซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว คาดกำไร 3Q-4Q65 เติบโต YoY ทุกไตรมาส โดย FV ปีนี้ที่ 69 บาท และเพิ่มเป็น 75 บาทสำหรับปี 2566

กําไรปกติ 2Q65 พื้นตัวดีตามคาด

งวด 2Q65 กำไรสุทธิ 2.75 พันล้านบาท หากไม่รวมกำไรจากการขายเงินลงทุน 10% ใน บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนให้กับ DUSIT ตามข้อตกลงเดิมเป็นจำนวนเงิน (หลังภาษี) 276 ล้านบาท (CPN มีสัดส่วนในบริษัทร่วมทุนนี้ 30%) มีกำไรปกติตามคาด 2.47 พันล้านบาท (+6.4%qoq, +115%yoy) ขับเคลื่อนจากรายได้ดำเนินงาน 8.58 พันล้านบาท (+10%qoq, + 43%yoy) จากทุกธุรกิจ นำโดยศูนย์การค้า (สัดส่วน 88% ของรายได้ดำเนินงาน) มีรายได้ค่าเช่าบริการ 7.55 พันล้านบาท เติบโต 6.4% qoq และ 40% yoy จากศูนย์การค้าเดิมที่ฟื้นตัว และการสร้างรายได้เพิ่มของ 4 ศูนย์การค้าใหม่ในรอบปีที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่เช่าเพิ่มขึ้น 2% yoy ขณะที่ปริมาณ Traffic เพิ่มเป็น 85% เทียบกับเฉลี่ย 75% งวดก่อน และ 52% งวดปีก่อน รวมถึงการให้ส่วนลดค่าเช่าลดลงมาเฉลี่ย 15% จาก 16% งวดก่อน และ 41% งวด 2Q64 ด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ เพื่อขายมียอดโอนฯ เพิ่ม 53% qoq และ 43% yoy อยู่ที่ 665 ล้านบาท (สัดส่วนรายได้ 8%) เช่นเดียวกัน รายได้ธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่น เช่น โรงแรมและศูนย์อาหาร (สัดส่วนรายได้อย่างละ 2%) ฟื้นตัวสูง 46% qoq และ 203% yoy ตามลำดับ ตามการเข้าพักและปรับเพิ่มค่าห้องพักในธุรกิจโรงแรม รวมถึงนักท่องเที่ยว/พนักงานกลับเข้าใช้บริการในศูนย์อาหารมากขึ้น

นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของรายได้ทุกส่วน ทำให้การประหยัดต่อขนาดเรื่องต้นทุน ส่งผลให้ Gross Margin เฉลี่ยดีขึ้นเป็น 48.6% จาก 48% งวดก่อน และ 40.2% งวดปีก่อน และ SG&A/Sales ลดลงมาที่ 16.6% รวมถึงการดำเนินงานที่ดีขึ้นของ CPNREIT และเมกะ บางนา (หลังรวมงบ SF ตั้งแต่ 4Q64) หนุนต่อการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม 384 ล้านบาท (+12% qoq, +153% yoy)

ภาพรวม 1H65 มีกำไรสุทธิ 5.08 พันล้านบาท หากไม่รวมกำไรพิเศษที่เกิดขึ้นใน 2Q65 มีกำไรปกติ 4.8 พันล้านบาท (+74% yoy) คิดเป็น 52% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี ด้านโครงสร้างการเงินมี Net Gearing อยู่ที่ 1 เท่า ทรงตัวจากงวดก่อน

แนวโน้มทุกธุรกิจ 2H65 ฟื้นตัวต่อเนื่อง

ทุกธุรกิจของ CPN ยังเห็นพัฒนาเชิงบวกอย่างต่อเนื่องใน 2H65 หลังผู้คนในประเทศกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ และนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยมากขึ้น หลังเดินหน้าเปิดประเทศ โดยยกเลิก Thailand Pass ตั้งแต่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ย่อมส่งผลดีต่อธุรกิจศูนย์การค้าให้มีผู้ใช้บริการทั้งคนไทยและต่างชาติมากขึ้น หนุนต่อยอดขายของร้านค้าฟื้นตัว โดยคาดปริมาณ Traffic สู่ระดับ 90% และการให้ส่วนลดค่าเช่าเหลือ 10-15% ภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงใน 4Q65 (ประมาณ 18 ธ.ค.) จะเปิดบริการ Marche ทองหล่อ ซึ่งเป็นโครงการ Mixed-Use ภายใต้การดำเนินงานของ SF มีพื้นที่ค้าปลีกราว 1.2 หมื่นตารางเมตร ขณะที่ธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่น คาดได้ประโยชน์เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรมจะมีอัตราการเข้าพักสูงขึ้น และปรับขึ้นค่าห้องพัก โดยเฉพาะใน 4Q65 ที่เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว รวมถึงธุรกิจอสังหาฯ เพื่อขาย ได้อานิสงค์จากดีมานด์แนวราบที่ยังดี และเปิดโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

ซื้อ… FV ปี 2565 ที่ 69.00 บาท และ 75 บาท ปี 2566

คงประมาณการ คาดกำไรปกติปีนี้เติบโตเกือบเท่าจากปีก่อนอยู่ที่ 9.28 พันล้านบาท และทิศทางกำไร 3Q-4Q65 จะขยายตัว YoY ทุกไตรมาส แนะนำซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว อิง DCF WACC 7.5% FV ปี 2565 ที่ 69.00 บาท และเพิ่มเป็น 75 บาทในปี 2566

ESG

Environment : ส่งเสริมและดูแลสิ่งแวดล้อมภายใต้โครงการต่างๆ เช่น ติดตั้งระบบน้ำรีไซเคิลแบบสัมปทาน, Journey to Zero ในการคัดแยกขยะ และ ลด/งด ใช้ถุงพลาติกผ่าน Say No To Plastics

Social : จัดสรรพื้นที่ให้หน่วยงานภาครัฐ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เช่น Vaccine Centre รวมถึงสนับสนุนให้กับเกษตรกรอินทรีย์ได้มาขายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนสู่ชุมชนท้องถิ่น

Governance : ยึดหลักบรรษัทภิบาล เน้นความโปร่งใส เป็นธรรม และให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม

ประเด็นความเสี่ยง

  1. การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก อาจส่งผลให้รายได้ค่าเช่าจากผู้เช่าในรูปแบบส่วนแบ่งรายได้ชะลอตัวลง รวมถึงการให้ส่วนลดต่อเนื่อง ทำให้การปรับขึ้นอัตราค่าเช่าน้อยกว่าที่คาดไว้ได้
  2. เนื่องจากค่าเช่าของศูนย์การค้าโครงการใหม่ๆ โดยปกติจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ดังนั้นเมื่อมีการเปิดศูนย์การค้าใหม่เพิ่ม อาจดึงให้อัตราค่าเช่าเฉลี่ยลดลงไปได้

CPN แนะนํา ซื้อ

ราคาปัจจุบัน (บาท) 66.00

ราคาเป้า 65 (บาท) 69.00

ราคาเป้า 66 (บาท) 75.00

Upside 66 (%) 13.60

Dividend Yield (%) 1.10

- Advertisement -