บล.บัวหลวง:

KCE Electronics (KCE TB/KCE.BK)

KCE – กำไรหลักต่ำกว่าคาด

กําไรต่ากว่าที่เราคาด

KCE รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่ 572 ล้านบาท ลดลง 7% YoY และ 3% QoQ หากไม่รวมกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (10 ล้านบาท) และการขาดทุนตามมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน (39 ล้านบาท) กำไรหลักจะอยู่ที่ 602 ล้านบาท ปรับตัวขึ้น 8% YoY และ 8% QoQ ซึ่งกําไรหลักต่ำกว่าที่เราคาด 20% และต่ำกว่าตลาดคาด 13% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้น และยอดขายที่ต่ำกว่าที่เราคาด บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลสําหรับครึ่งแรกของปี 2565 ที่ 1 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลขั้นต้นที่ 1.6% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 23 ส.ค. และจ่ายปันผลในวันที่ 9 ก.ย.)

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

รายได้ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 4.7 พันล้านบาท เติบโต 32% YoY และ 3% QoQ (หรือ 136 ล้านเหรียญสหรัฐเติบโต 20% YoY แต่ทรงตัว QoQ) ยอดขาย PCB (ในค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ) ปรับตัวขึ้น 14% YoY แต่ทรงตัว QoQ ยอดขายในไตรมาส 2/65 ได้รับผลกระทบจากจํานวนวันทำการที่ลดลงในช่วงวันหยุดสงกรานต์ นอกจากนี้ ปัญหาด้านการขนส่งที่เกิดจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ส่งผลกระทบในทางลบต่อการผลักดันยอดขาย และทำให้สต็อกสินค้าสูงขึ้น เนื่องจากการจัดส่งที่ล่าช้า

อัตรากําไรขั้นต้นปรับตัวลงจาก 29% ในไตรมาส 2/64 มาอยู่ที่ 22.8% ในไตรมาสนี้ (อัตรากําไรขั้นต้นทรงตัว QoQ) เนื่องจากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นจากราคาทองแดงที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าขายสูงขึ้น 2.4% YoY กอปรกับการเพิ่มขึ้นของราคาวัสดุและเคมีภัณฑ์อื่นๆ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงยังสะท้อนให้เห็นในต้นทุนที่สูงขึ้นของวัสดุและอุปกรณ์นำเข้า นอกจากนี้ ต้นทุนคงที่และค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

แนวโน้ม

กําไรหลักครึ่งแรกของปี 2565 ของ KCE ถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และต้นทุนที่เกี่ยวกับการขยายกำลังการผลิตที่สูง อย่างไรก็ตาม เครื่องจักรใหม่ของ KCE กลับมาทํางานตามปกติ ราคาวัตถุดิบดูเหมือนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะจุดสูงสุดและค่อยๆ ลดลง นอกจากนี้ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ จะหนุนอัตรากําไรขั้นต้น ดังนั้น เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะฟื้นตัว YoY และ QoQ ในไตรมาส 3/65 ดังนั้น กำไรไตรมาส 3/65 ของ KCE จะปรับตัวขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

กําไรหลักในไตรมาส 2/65 แย่กว่าที่เราคาด ดังนั้นเราจึงปรับประมาณการกําไรหลักปี 2565 ลง 23% มาอยู่ที่ 2.7 พันล้านบาท

คําแนะนํา

ปกติราคาหุ้น KCE จะปรับตัวสะท้อนโทนของสารสําคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ ซึ่งการประชุมสําหรับผลประกอบการไตรมาส 2/65 จะจัดขึ้นในบ่ายวันนี้ เราคาดบริษัทจะบอกนักวิเคราะห์ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการผลิตและการขนส่ง เราจึงปรับคำแนะนําจาก ซื้อเก็งกำไร เป็น ถือ

KCE – ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์

What’s new?

เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์ช่วงบ่ายวันนี้มุมมองออกมาเป็นกลาง โดยผลประกอบการน่าจะฟื้นตัวใน 2H22 แต่ยังคงถูกกดดันจากหลายปัจจัย

Highlights:

  • ใน 2Q22 ถูกกดดันจากยอดขายที่ไม่ตามเป้า (ลูกค้าดึงของไปใช้น้อยกว่าคาด และปัญหาด้านการขนส่ง) และอัตรากำไรขั้นต้นจากการปรับขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบหักกลบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าทำให้อัตรากำไรขั้นต้นทำได้แค่ทรงตัว QoQ
  • แนวโน้มรายได้ใน 3Q22 น่าจะเติบโตได้ 5% QoQ และ 5% QoQ ใน 4Q22 Demand ในฝั่ง US อ่อนตัวลงไปบ้าง และยังคงมีปัญหา การขาดแคลนวัตถุดิบซึ่งจะลากยาวไปถึงปีหน้า แต่บริษัทยังมี Backlog และลูกค้าใน Pipeline ที่แข็งแรง
  • บริษัทปรับเป้า GM ทั้งปีจาก 29% ลงมาที่ระดับ 23-24% สะท้อนต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามราคาวัตถุดิบน่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และน่าจะเริ่มเห็นผลการฟื้นตัวตั้งแต่ใน 3Q22
  • สายการผลิตใหม่รันได้ระดับ 80-90% ยังต้องใช้เวลาในการปรับประสิทธิภาพขึ้นเรื่อยๆ ส่วนโรงงานใหม่คาดจะดีเลย์ 3-6 เดือน น่าจะเริ่มรันได้ ปลาย 3Q23-ต้น 4Q23
  • รายได้ปีหน้ายังมองเติบโต 10% และ GM ระดับ 25-26%

View From Fundamental:

  • แม้ว่าเราคาดกำไรใน 2H จะฟื้นตัวได้ แต่ยังมีหลายปัจจัยกดดัน อีกทั้งยังมีโอกาสเห็นการปรับประมาณการกำไรของตลาดลง โดยล่าสุด GM ของตลาดอยู่ที่ 27% (เทียบกับเราที่ 24.5%) เรายังคงคำแนะนำ wait-and-see
- Advertisement -