บล.บัวหลวง:
SC Asset Corporation (SC TB / SC.BK)
SC – กำไรไตรมาส 2/65 ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามคาด; ประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งแรกสำหรับครึ่งแรกของปี 2565
เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด
SC รายงานกําไรหลักไตรมาส 2/65 ที่ 581 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YoY และ 50% QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด คณะกรรมการบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครั้งแรกสําหรับครึ่งแรกของปี 2565 ที่ 0.08 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนจากเงินปันผลขั้นต้นที่ 2.3% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 245ส.ค. และจ่ายปันผลในวันที่ 7 ก.ย.)
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
กําไรหลักเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ เนื่องจากยอดขายที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น ยอดขายที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท (โครงการแนวราบ 89% และ โครงการคอนโด 11%) เพิ่มขึ้น 9% YoY และ 38% QoQ ยอดขายโครงการแนวราบอยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% YoY และ 38% QoQ ขณะที่ยอดขายโครงการคอนโดอยู่ที่ 557 ล้านบาท ลดลง 42% YoY แต่เพิ่มขึ้น 38% QoQ รายได้ค่าเช่าอยู่ที่ 219 ล้านบาท เติบโต 11% YoY และ 5% QoQ ทั้งนี้อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายอสังหาฯอยู่ที่ 31.3% ปรับตัวขึ้นจาก 29.0% ในไตรมาส 2/64 และ 31.0% ในไตรมาส 1/65 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ในไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 18.3% เพิ่มขึ้น 200bps YoY แต่ลดลง 160bps QoQ (เนื่องจากรายได้ที่ เพิ่มขึ้น QoQ) อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 1.1 เท่า
แนวโน้ม
SC มีแนวโน้มรายงานกำไรหลักไตรมาส 3/65 เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ยอดขายที่อยู่อาศัยจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ (ยอดโอนโครงการคอนโดใหม่) อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายอสังหาฯ ควรอยู่ในช่วง 31-32% เพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY และ QoQ เนื่องจากสัดส่วนอัตรากําไรที่เพิ่มขึ้น อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น YoY (ทรง ตัว QoQ) เนื่องจากแผนการเปิดตัวโครงการที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น ในไตรมาส 3/65 SC จะเปิดตัวบริษัทย่อยใหม่ 2 บริษัท ได้แก่ SCX One Co Ltd และ SC Asset Four Co Ltd เพื่อดำเนินการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
กำไรครึ่งแรกของปี 2565 คิดเป็น 42% ของประมาณการกำไรปี 2565 ของเราที่ 2.3 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 13% YoY) ซึ่งคงไว้ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เราประมาณการยอดขายที่อยู่อาศัยเชิงอนุรักษ์นิยมที่ 21 พันล้านบาท (ต่ำกว่าเป้าหมายของ SC 5%, ที่ 22 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้น 12% YoY อัตรากําไรหลักปี 2565 มีแนวโน้มทรงตัว YoY ที่ 10.5% เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากแผนการเปิดตัวโครงการเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3-4/65 SC มีคอนโดสามแห่งที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/65 ซึ่งได้แก่ สโคป หลังสวน (มูลค่าโครงการ 8.3 พันล้านบาท จองแล้ว 35%) สโคป พร้อมศรี (มูลค่าโครงการ 1.0 พันล้านบาท จองแล้ว 38%) และ เดอะ เครสท์ พาร์ค เรสซิเดนเซส (มูลค่าโครงการ 3.1 พันล้านบาท จองแล้ว 15%) ดังนั้น โครงการคอนโดที่มีกำาหนดเริ่มโอนในไตรมาส 4/65 จึงคิดเป็นประมาณ 64% ของเป้าหมายการโอนคอนโดของ SC ในปี 2565
คําแนะนํา
เราคาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นจากผลประกอบการที่ดีในไตรมาส 2/65 และการประกาศเงินปันผลระหว่างกาลครั้งแรกในครึ่งแรกของปี 2565 เราได้ปรับคำแนะนำจาก ถือ เป็น ซื้อ เนื่องจากเราเชื่อว่าแนวโน้มกำไรปี 2565 ของ SC จะกระจุกอยู่ในครึ่งหลังของปี 2565 (หนุนจากยอดโอนโครงการคอนโดในไตรมาส 4/65) โดยมีราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 อ้างอิงจากวิธี SOTP ที่ 3.90 บาท โดยอิงจาก PER ของธุรกิจอสังหาฯ อยู่ที่ 6.0 เท่า และมูลค่าตลาดที่ 1.0 บาท/หุ้น (คิดลด 30% จากราคาประเมิน)