บล.บัวหลวง:
MFEC (MFEC TB/MFEC.BK)
MFEC – กำไรต่ำกว่าที่เราคาด
กําไรหลักต่ำกว่าที่เราคาด 8%
MFEC รายงานกําไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่ 41 ล้านบาท ลดลง 10% YoY และ 21% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ ได้แก่ การขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 6.2 ล้านบาท กำไรจากการเปลี่ยนประเภทการลงทุน 16.9 ล้านบาท (Data Café ออกหุ้นใหม่ให้บุคคลภายนอก เปลี่ยนสถานะ Data Café จากบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วมทุน) และค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 3 รายการ รวม 26 ล้านบาท กำไรหลักจะอยู่ที่ 57 ล้านบาท เติบโต 21% YoY และ 5.5% QoQ ซึ่งต่ำกว่าที่เราคาด 8% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงกว่าคาด
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
รายได้อยู่ที่ 1,327 ล้านบาท เติบโต 21% YoY และ 6% QoQ ซึ่งตรงกับที่เราคาด หนุนมาจากรายได้บำรุงรักษาระบบงาน (รายได้ประจํา) ซึ่งปรับตัวขึ้น 63% YoY และ 19% QoQ ธุรกิจคลาวด์ก็เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง (รายได้ประจำเช่นกัน) โดยโต 25% YoY และ 16% QoQ อัตรากําไรขั้นต้นอยู่ที่ 19% ปรับตัวขึ้นจาก 17% ในไตรมาส 2/64 และ 18% ในไตรมาส 1/65 อย่างไรก็ตาม สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ 14% จาก 12% ในไตรมาส 2/64 และ 13% ในไตรมาส 1/65 เนื่องจาก MFEC มีการจ้างพนักงานมากขึ้น เพิ่มรองรับการขยายตัวของธุรกิจ
ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2565 บริษัทรายงานมูลค่างานโครงการที่ยังไม่ได้ส่งมอบให้ลูกค้า 7,666 ล้านบาท ปรับตัวขึ้น 35% YoY และ 15% QoQ ซึ่งตรงตามกับกลยุทธ์ของทางผู้บริหารที่จะมีงานในมือจํานวนมากเพื่อสร้างความ มั่นคงของรายได้ในอนาคต
แนวโน้ม
เราคาดกําไรหลักไตรมาส 3/65 ที่ 62 ล้านบาท เติบโต 2% YoY และ 22% QoQ หนุนมาจากการฟื้นตัวของกลุ่มเอกชนจากผลกระทบของโควิด-19 และการปรับตัวไปใช้คลาวด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
เรายังคงประมาณการกำไรปี 2565 ที่ 270 ล้านบาท เติบโต 8% YoY
คําแนะนํา
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมีราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 ที่ 11.50 บาท งานในมือของ MFEC มีเยอะมาก เราคาดบริษัทจะสามารถรายงานกำไรที่แข็งแกร่งในครึ่งหลังของปี 2565 เนื่องจากการลงทุนของภาคเอกชนที่ฟื้นตัว (หนุนจากปัจจัยทางฤดูกาล) นอกจากนี้การ IPO ของบริษัท I-Two ในไตรมาส 3/65 (MFEC ถือสัดส่วนการลงทุน 15%) จะเป็นการปลดล็อคมูลค่าที่ซ่อนอยู่