บล.ทรีนีตี้:
เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ – KCE
KCE รายงานกำไรต่ำกว่าตลาดคาด ผู้บริหารคาดหวังจะเห็นการฟื้นใน 3Q22
- ปรับคำแนะนำลงเป็น ถือ และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 63.00 อิง PER ที่ 30 เท่า ซึ่งมาจากที่ปรับประมาณการกำไร 2Q22 ลง เรายังมีมุมมองเชิงระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น จากธุรกิจของบริษัทอิงกับธุรกิจยานยนต์ที่ประสบปัญหา chip shortage และเป็นสินค้า Durable goods ซึ่งอาจจะถูกผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
- KCE รายงานกำไร 2Q22 เหลือเพียง 572 ล้านบาท -7% YoY, -3% QoQ โดยกำไรจาก Fx ราว 9.5 ล้านบาท และขาดทุนจากเงินลงทุนราว 39 ล้านบาท ดังนั้น กำไรปกติจะอยู่ที่ราว 600 ล้านบาท +7% YoY, +2% QoQ
- ผู้บริหารคาดจะเห็นการฟื้นตัวใน 2H22 จากต้นทุนที่เริ่มปรับลดลง โดยราคาทองแดงปรับลงจากระดับสูงสุดในช่วงเดือน เม.ย. ทั้งนี้ผู้บริหารมีมุมองเชิงระมัดระวังมากขึ้น โดยคาด Margin จะอยู่ราว 24% ปรับลดลงจากที่เคยตั้งเป้าไว้
- เราปรับประมารการกำไรปี 2022-23 ลง -16% และ -14% เหลือ 2.5 พันล้านบาท และ 2.9 พันล้านบาทตามลำดับ จากสมติฐาน Margin จากเดิมที่ 29% มาเป็น 24% ด้วยต้นทุนที่สูงขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
Result review:
KCE รายงานกำไร 2Q22 เหลือเพียง 572 ล้านบาท -7% YoY, -3% QoQ โดยกำไรจาก Fx ราว 9.5 ล้านบาท และขาดทุนจากเงินลงทุนราว 39 ล้านบาท ดังนั้นกำไรปกติจะอยู่ที่ราว 600 ล้านบาท +7% YoY, +2% QoQ
1) รายได้ในรูปเงิน USD อยู่ที่ 136 ล้านเหรียญฯ +20% YoY, -1.2% QoQ โดยเพิ่มขึ้น YoY จาก Product Mix ที่เป็น Special grade เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ลดลง QoQ เนื่องด้วยไตรมาส 2 เป็นช่วงหยุดยาว และปัญหาการขาดตู้คอนแทนเนอร์ยังคงอยู่ ทำให้บริษัทมีการเลื่อนส่งสินค้า
2) Margin อยู่ที่ 22.8% ทรงตัวจากไตรมาสก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างมาก ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น และราคาวัสดุสินเปลืองปรับเพิ่มขึ้น
ผู้บริหารคาดหวังจะเห็นการฟื้นตัวใน 2H22
ผู้บริหารคาดจะเห็นการฟื้นตัวใน 2H22 จากต้นทุนที่เริ่มปรับลดลง โดยราคาทองแดงที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา และค่อยๆ เริ่มปรับลดลง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นผลของต้นทุนที่จะลดลงใน 3Q22 ได้
ปรับประมาณการปี 2022-23 ลง -16% และ -14% ตามลำดับ
เราปรับประมารการกำไรปี 2022-23 ลง -16% และ -14% เหลือ 2.5 พันล้านบาท และ 2.9 พันล้านบาท ตามลำดับ จากสมติฐาน Margin จากเดิมที่ 29% มาเป็น 24% ด้วยต้นทุนที่สูงขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ปรับราคาเป้าหมายลงมาเป็น 63.00 บาท
ปรับคำแนะนำลงเป็น ถือ และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 63.00 อิง PER ที่ 30 เท่า ซึ่งมาจากที่ปรับประมาณการกำไร 2Q22 ลง เรายังมีมุมมองเชิงระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น จากธุรกิจของบริษัทอิงกับธุรกิจยานยนต์ที่ประสบปัญหา chip shortage และเป็นสินค้า Durable goods ซึ่งอาจจะถูกผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ความเสี่ยง: ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน, ความผันผวนของราคาทองแดง, ยอดขายรถยนต์ในต่างประเทศ