TKN โชว์ผลงานไตรมาส 2/65 มีรายได้รวม 958 ล้านบาท ดันผลงานครึ่งปีแรกพุ่งแรงกวาดกำไรสุทธิ 134 ล้านบาท เติบโตกว่า 70% หลังยอดขายในไทยและต่างประเทศบูม เดินหน้าเจาะตลาด Mainstream ในสหรัฐฯ เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในครึ่งปีหลัง หวังกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% พร้อมประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.09 บาท/หุ้น เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 สิงหาคมนี้ 

 

นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/25 บริษัทมีรายได้จากการขาย 958 ล้านบาท เติบโต 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 783 ล้านบาท โดยยอดขายจากผลิตภัณฑ์สาหร่ายดีขึ้นทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศสหรัฐฯ มาเลเซีย ไต้หวัน และเวียดนาม ที่มีอัตราเติบโตเกิน 2 หลัก ปัจจุบันจึงมีสัดส่วนรายได้จากในประเทศ 38% และต่างประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 62% ขณะที่มีกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท เติบโต 218% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 22.2 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2565 มีรายได้จากการขาย 1,926 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 1,703 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 134 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 78.4 ล้านบาท เป็นผลเติบโตตามไฮซีซันของธุรกิจ โดยตลาดในประเทศยังมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังจากผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ทำให้ความการบริโภคสินค้าฟื้นตัว

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.09 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 24 สิงหาคม และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคม และจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 7 กันยายนนี้

สำหรับแผนดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลัง เตรียมจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Product : NPD) อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นที่ผลิตภัณฑ์สาหร่าย โดยเฉพาะสาหร่ายอบที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ล่าสุดได้ทำการการตลาดร่วมกับ BT21 ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนของ LINE FRIENDS ที่ออกแบบโดยวงไอดอลเกาหลีชื่อดังระดับโลก พร้อมกันนี้ ได้เปิดตัวออกแคมเปญ NFT : THE PHENOMENON ร่วมกับ บริษัทบิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เพื่อออกแบบ Non-Fungible Token (NFT) คอลเลคชั่นพิเศษกว่า 600,000 ชิ้น ผ่านซองขนมเถ้าแก่น้อย ซึ่งนับเป็นการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ให้กับผู้บริโภค

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์สาหร่ายโรยข้าว ซึ่งทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้มีการปรับสูตรและพัฒนารสชาติหลากหลายมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะวางจำหน่ายอย่างน้อย 1-2 SKUs ในครึ่งปีหลัง สำหรับผลิตภัณฑ์นมพลาสเจอร์ไรส์ ภายใต้แบรนด์ “จัสท์ดริ้งค์” ได้เปิดตัวรสชาติใหม่คือ ชานมเอิร์ลเกรย์ และคาดว่าจะทยอยออกรสชาติใหม่อีก 1-2 SKUs ในเร็วๆนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง

ส่วนแผนงานขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ได้ทำแผนการตลาดโดยมุ่งเน้นเจาะตลาด Mainstream พร้อมสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจว่า ผลิตภัณฑ์สาหร่ายเป็นหนึ่งในเฮลตี้ สแน็ค ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคได้ โดยเตรียมวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านร้านค้าชั้นนำอย่างเทรดเดอร์โจส์ที่มีสาขากว่า 500 แห่งในสหรัฐอเมริกา คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายปลายไตรมาส 3/65 หรือไตรมาส 4/565 รวมถึงจะนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในร้านค้าปลีกชั้นนำในระดับท้องถิ่นของสหรัฐฯ

พร้อมกันนี้ ได้วางแผนกลยุทธ์การตลาดเพิ่มขยายผลิตภัณฑ์สาหร่ายของเถ้าแก่น้อย ในประเทศแถบยุโรปเพิ่มเติม ซึ่งจะใช้โมเดลธุรกิจคล้ายกับในสหรัฐฯ เพื่อรุกขยายตลาด ขณะที่ตลาดหลักในต่างประเทศอย่างประเทศจีน ภายหลังเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้มียอดขายสินค้าฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าคำสั่งซื้อจากประเทศจีนในครึ่งปีหลังของปี 2565 จะเข้ามามากกว่า 100 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน จึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานปี 2565 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%

*******

- Advertisement -