JMT โชว์ผลงาน Q2/65 เข้าเป้า มีกำไรอยู่ที่ 433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,087 ล้านบาท โต 33% ระบุมาจากยอดจัดเก็บช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาพุ่งทะยานต่อเนื่อง ทั้งมีต้นทุนการเงินลดลง สะท้อนความสามารถในการทำกำไร ขณะที่พอร์ตหนี้ที่บริหารพุ่งแตะ 245,320 ล้านบาท ด้านทิศทางผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังยังต่อได้อย่างต่อเนื่อง ดันเป้ากำไรปีนี้โต 45% ตามนัด เผยมองยังมีอัพไซด์เพิ่มจากการตั้ง JK AMC บริษัทร่วมทุนกับกลุ่มธุรกิจธนาคารกสิกรไทย พร้อมสั่งจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.49 บาทต่อหุ้น

 

นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดประจำไตรมาส 2/65 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 433 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 50% และมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,087 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 33% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 65% และอัตรากำไรสุทธิ 37% เนื่องจากภาพรวมธุรกิจติดตามหนี้และธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ สามารถบริหารจัดการ และการจัดเก็บที่ดีต่อเนื่อง

สำหรับยอดจัดเก็บหนี้ (Cash Collection) ทำได้ดีอยู่ที่ 1,337 ล้านบาท เติบโต 37% สนับสนุนครึ่งปีแรกมียอดจัดเก็บ 2,795 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากงวดเดียวกันของปีก่อน อีกทั้ง พอร์ตหนี้ที่ซื้อเข้ามาบริหารมีฐานที่ใหญ่ขึ้น รวมไปถึง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง จากแผนการเพิ่มทุนในช่วงปลายปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ สนับนุนภาพรวมครึ่งปีแรก JMT มีกำไรสุทธิ 800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% และมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,166 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

ส่วนงวดไตรมาส 2/65 ใช้งบลงทุนซื้อหนี้ด้อยคุณภาพทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันไปแล้วจำนวน 1,122 ล้านบาท จากเป้าหมายปีนี้วางงบลงทุน 10,000 ล้านบาท สนับสนุนพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพอยู่ที่ 245,320 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าซื้อหนี้เข้ามาบริหารจากสถาบันการเงิน แย้มดีลเข้ามาอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้

ทั้งนี้ประเมินทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังของ JMT เป็นไฮซีซัน และคาดว่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากสถาบันการเงินต่างๆ ทยอยขายหนี้ด้อยคุณภาพออกมา เพื่อรักษาภาพรวมหนี้เสียในระบบ และเป็นโอกาสของ JMT สนับสนุนผลงานในปี 2565 เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่น้อยกว่า 45% จากปีก่อน

ขณะเดียวกัน มองว่ามีอัพไซด์จากความสำเร็จของดีลความร่วมมือกับบริษัทลูกของ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ประกาศร่วมทุน 10,000 ล้านบาท จัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) ซึ่งถือเป็นบริษัทร่วมทุนแห่งแรกในไทย ระหว่างธนาคารพาณิชย์และบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ตามนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์โควิด และได้เริ่มดำเนินการเมื่อมิถุนายน 2565 เป็นต้นมา จะส่งผลดีต่อการบริหารจัดการหนี้แบบ win-win เพิ่มความได้เปรียบของต้นทุนการบริหารหนี้ที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ KBANK มีแผนโอนขายหนี้ NPL ให้แก่ JK AMC ล็อตแรกจำนวน 50,000 ล้านบาท ภายในปีนี้ และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/65 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก ในอัตรา 0.49 บาทต่อหุ้น กำหนดวันปิดสมุดทะเบียน (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 7 กันยายน 2565

********

- Advertisement -