บล.บัวหลวง: 

GULF – กำไรหลักมากกว่าคาด Gulf Energy Development (GULF TB/GULF.BK)

กําไรสุทธิต่ำกว่าคาด แต่กำไรหลักมากกว่าคาด

GULF รายงานกําไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่ 1,531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY แด่ลดลง 55% QoQ กําไรสุทธิต่ำกว่าที่เราคาด 11% (ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนมากกว่าคาด) และต่ำกว่าตลาดคาด 20% หากไม่รวมรายการ พิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 3,081 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120% YoY แต่ลดลง 5% QoQ ผลประกอบการสูงกว่าเราคาด 6% (ส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทร่วมสูงกว่าคาด) และสูงกว่าตลาดคาด 9%

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 105% YoY และ 12% QoQ หนุนโดยกำลังการผลิตใหม่จากโรงไฟฟ้า IPP (GSRC units 2-3) และราคาขายไฟฟ้าเฉลี่ยที่สูงขึ้นของโรงไฟฟ้า SPP (จากราคาขายไฟฟ้าครัวเรือนที่สูงขึ้น) อัตรากำไรขั้นต้น ไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 19.3% ลดลงจาก 24.2% ในไตรมาส 2/64 (ราคาก๊าซที่สูงขึ้น) และ 22.1% ในไตรมาส 1/65 (การจ่ายไฟฟ้าที่ลดลงจากโรงไฟฟ้า BKR2) ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 59% YoY (หนี้สินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังการเข้าซื้อหุ้น INTUCH) และ 27% 000 (หนิ้สินที่สูงขึ้นควบคู่ไปกับกำลังการผลิตใหม่ กอปรกับมีการปรับมูลค่าการตั้งสำรองต้นทุนการรื้อถอนของ BKR2 ในไตรมาส 1/65)

แนวโน้ม

เราคาดกําไรหลักของ GULF ในไตรมาส 3/65 จะเพิ่มขึ้น YoY หนุนโดยกําไรจากกำาลังการผลิตใหม่ของโรงไฟฟ้า IPP อย่างไรก็ตาม ประมาณการของเราคาดกําไรลดลง QoQ เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า BKR2 ที่ลดลง (GULF ขายหุ้น 25% ของ BKR2 ให้กับ Neptune1 Infrastructure Holdings Pte Ltd ในราคา 305 ล้านยูโรเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดังนั้นการถือหุ้นในโครงการจึงลดลงจาก 50% เป็น 25 %) ทั้งนี้กำไรสุทธิไตรมาส 3/65 มีแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดด YoY และ QoQ หนุนโดยการพลิกจากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจํานวนมาก (ซึ่งถูกรายงานทั้งในไตรมาส 3/64 และในไตรมาส 2/65) ไปเป็นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (ค่าเงินบาทกำลังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ) และกำไรจากการขายหุ้น BKR2

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

หลังจากนําผลประกอบการในครึ่งแรกของปี 2565 และสัดส่วนการถือหุ้นที่ลดลงของ GULF ใน BKR2 มาประกอบการวิเคราะห์ เราได้ปรับประมาณการกําไรหลักปี 2565 ลง 2% มาอยู่ที่ 12,994 ล้านบาท (โด 47% YoY) และ ปรับลดประมาณการกำไรระยะยาวของเราลงในช่วง 2-4% อย่างไรก็ตาม เงินสดสุทธิที่ได้รับจากการขายหุ้นนั้นใกล้เคียงกับการคำนวณ NPV ของเรา สําหรับ FCFF ที่หายไป ดังนั้นราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 ของเราจึงคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงที่ 66 บาท

คำแนะนำ

แนวโน้มกำไรของ GULF ไม่ได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงเรื่องราคาก๊าซมากนัก กำลังการผลิตใหม่ของโรงไฟฟ้า IPP กำลังจะทยอยเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ หนุนการเติบโตของกําไร นอกจากนี้ กิจการร่วมทุน GULF-GUNKUL ยังเงินสด 5 พันล้านบาท และคาดว่าจะประกาศการลงทุนใหม่เร็วๆ นี้ แผนพัฒนา PDP2022 จะเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถลงทุนครั้งใหญ่ ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของ GULF (คมนาคม data center และการซื้อ ขายสินทรัพย์ดิจิทัล) จะหนุนการเติบโตอีกแรง อ้างอิงจากปัจจัยดังกล่าว เราคาดอัตราการเติบโตเฉลี่ยทบต้นของกำไรหลักจะยังคงยืนในระดับเลขสองหลักได้อีกกว่าสองทศวรรษต่อจากนี้ (โดยมีความเสี่ยงต่ำมาก) ซื้อ!

 

 

- Advertisement -