บล.บัวหลวง: 

Star Petroleum Refining (SPRC TB / SPRC.BK)

SPRC – กำไรไตรมาส 2/65 เป็นไปตามคาด; อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีกลับมาแล้ว!

เป็นไปตามคาด

SPRC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่ 7,156 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9 เท่า YoY และ 35% QoQ หากไม่รวมกำไรจากสินค้าคงคลัง 1,967 ล้านบาท, ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 302 ล้านบาท, และขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ 337 ล้านบาท กําไรหลักจะอยู่ที่ 6,161 ล้านบาท พลิกกลับ YoY จากขาดทุนหลัก และเพิ่มขึ้น 184% QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด SRPC ประกาศจ่ายเงินปันผลสําหรับครึ่งแรกของปี 2565 ที่ 0.96 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนจากเงินปันผลขั้นต้นที่ 8.5% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 24 ส.ค. และจ่ายปันผลในวันที่ 8 ก.ย.)

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

ปัจจัยสําคัญที่หนุนการเติบโตของกำไรหลัก ได้แก่ 1) อัตราการใช้กำลังการกลั่นที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้ง YoY และ QoQ, 2) ค่าการกลั่นตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้ง YoY และ QoQ, 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลงมาอยู่ที่ 0.4% จาก 0.6% ในไตรมาส 2/64, และ 4) อัตราภาษีจ่ายที่ลดลง อัตราการใช้กําลังการกลั่นของ SPRC ในไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 1.56 แสนบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 15% YoY และ 4% QoQ (อุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้น) ในขณะที่ค่าการกลั่นตลาดอยู่ที่ 18.9 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 614% YoY และ 124% QoQ (ส่วนด่างราคาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น)

แนวโน้ม

กําไรหลักไตรมาส 3/65 ของ SPRC มีแนวโน้มขยายตัว YoY หนุนโดยอัตราการไปกำลังการกลั่นที่เพิ่มขึ้นและค่าการกลั่นตลาดที่สูงขึ้น อุปสงค์ผลิตภัณฑ์น้ำมันสําเร็จรูปในวงกว้างมีแนวโน้มเติบโต ฟื้นตัวต่อเนี่องไปจนถึงไตรมาส 3/65 จากมุมมองของอุปทาน การปิดโรงกลั่น, การส่งออกที่ลดลงจากประเทศจีน, และสค็อกน้ำมันอยู่ในระดับต่ำจะเป็นปัจจัยจํากัดอุปทาน YoY อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ทั่วโลกที่ลดลงเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และอุปทานที่มีจำนวนมากมีแนวโน้มที่จะกดดันค่าการกลั่น QoQ ในไตรมาสนี้ เราจึงคาดว่าค่าการกลั่นจะขยายตัว YoY แต่ปรับตัวลดลง QoQ ใน ไตรมาส 3/65

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

กําไรหลัก 6 เดือนแรกของปี 2565 คิดเป็น 59% ของประมาณการกำไรหลักปี 2565 ของเราที่ 14,170 ล้านบาท เรายังคงประมาณการไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากฤดูกาลขับของสหรัฐฯ เป็นปัจจัยสําคัญต่ออุปสงค์ก๊าซโซลีน (และส่วนต่างราคาก๊าซโซลีน) ซึ่งกำลังจะสั้นสุดลงเร็วๆ นี้ เราจึงปรับระดับ PBV สําหรับการประเมินราคาเป้าหมายของ SPRC ลดลงมาอยู่ที่ 1.2 เท่า (จากระดับ 1.6 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ซื้อขายในช่วงไฮซีซัน) ดังนั้นราคาเป้าหมายของเรา ณ สิ้นปี 2565 จึงอยู่ที่ 12 บาท

คำแนะนำ

ความคาดหวังต่อการเติบโตของกำไรหลัก YoY ไตรมาส 3/65 และผลการดำเนินการหลักที่ปรับตัวดีขึ้นในปีนี้ หนุนโดยค่าการกลั่นที่ขยายตัวและอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีน่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป มูลค่าหุ้นปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2565 ที่เพียง 1.2 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 0.7 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2565 ที่ 20.4% (เทียบกับ 3.0% ของตลาดหลักทรัพย์) น่าจะช่วยจํากัดความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้น เนื่องจากช่วงพีคซีซั่นของก๊าซโซลีนกำลังจะจบลง (SPRC เหมาะสมที่สุดสําหรับธีมนี้) เราไม่เห็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น ดังนั้นเราจึงปรับคําแนะนําจาก “ซื้อเก็งกำไร” เป็น “ถือ”

SPRC – ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์

What’s new?

ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมายืนยันมุมมอง เชิงบวกของเราต่อแนวโน้มค่าการกลั่นและการเติบโตของผลการดำเนินงานในปีนี้

Highlights:

  • ค่าการกลั่นมีแนวโน้มปรับตัวลดลง QoQ ใน 3Q22 เนื่องจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงตามปัจจัยฤดูกาล (ทั้งก๊าซโซลีนและดีเซล) และ crude premium ที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่คาดว่าค่าการกลั่นจะปรับตัวสูงขึ้น QoQ ใน 4Q22 หนุนโดยอุปสงค์ในช่วงฤดูหนาว (ซึ่งจะส่งผลให้ส่วนต่างราคาดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้น) และ crude premium ที่ปรับตัวลดลง
  • SPRC คาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นจะเพิ่มขึ้นจากระดับ 156,000 บาร์เรล/วัน ใน 2Q22 เพิ่มขึ้นเป็น 160,000-165,00 บาร์เรล/วัน ใน 3Q22 และ 170,000 บาร์เรล/วัน ใน 4Q22
  • สำหรับเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหล ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคาดว่าจะสามารถกลับมา ใช้งานได้ภายใน 2H22
  • สถานะทางการเงินยังคงแข็งแกร่ง โดยมี net debt/equity อยู่ที่เพียง 0.08 เท่า ณ สิ้น 2Q22 บริษัทจึงมีความพร้อมสำหรับการลงทุนใหม่ๆ หากมีโอกาสที่เหมาะสม
  • สำหรับโครงการลงทุนใหม่ SPRC อยู่ระหว่างการแสวงหาโอกาสในการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับ Energy Transition (ลด carbon emission) และ Sustainability (ยังไม่มีรายละเอียด ณ ปัจจุบัน)

View From Fundamental:

ความคาดหวังต่อการเติบโตของกำไรหลัก YoY ใน 3Q22 และผลการดำเนินการหลักที่ปรับตัวดีขึ้นในปีนี้ หนุนโดยค่าการกลั่นที่ขยายตัวและอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีน่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป มูลค่าหุ้นปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2022 ที่เพียง 1.2 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ระยะยาวอยู่ 0.7SD) และคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2022 ที่ 20.4% (เทียบกับ 3.0% ของตลาดหลักทรัพย์) น่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้น เนื่องจากช่วงพีคซีซั่นของก๊าซโซลีนกำลังจะจบลง (SPRC เหมาะสมที่สุดสำหรับธีมนี้) เราไม่เห็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ “ถือ”

 

- Advertisement -