บล.บัวหลวง: 

Eastern Polymer Group (EPG TB/EPG.BK)

EPG – กำไรไตรมาส 1/65 ต่ำกว่าคาด; แนวโน้มระยะสั้นไม่น่าตื่นเต้น

ต่ำกว่าคาด

EPG รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/65/66 (เดือน เม.ย.-มิ.ย.) ที่ 231 ล้านบาท ลดลง 49% YoY และ 31% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 252 ล้านบาท ลดลง 41% YoY และ 28% QoQ ซึ่งต่ำกว่าที่ เราคาด 26% (ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 34%) เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสูงกว่าคาด

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

ปัจจัยหลักที่กดดันก่าไรหลักให้ปรับตัวลดลง ได้แก่ 1) ยอดขายของ Aeroklas (ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์) ที่ลดลงทั้ง YoY และ QoQ, 2) ยอดขายของ EPP (ธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม) ที่ปรับตัวลดลง QoQ, 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 23.7% จาก 19.3% ในไตรมาส 1/64/65 และ 20.1% ในไตรมาส 4/64/65, 4) ส่วนแบ่งกําไรที่ลดลงทั้ง YoY และ QoQ, และ 5) อัตราภาษีจ่ายที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ อย่างไรก็ตาม ยอดขายของ Aeroflex (ธุรกิจฉนวนกันความร้อน) ที่สูงขึ้น (ทั้ง YoY และ QoQ) และยอดขายของ EPP ที่สูงขึ้น (YoY), และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ช่วยบรรเทาการปรับตัวลดลงของกำไรหลักได้บางส่วน

รายได้ของ Aeroflex อยู่ที่ 884 ล้านบาท เติบโต 8% YoY และ 10% QoQ (อุปสงค์ที่แข็งแกร่งทั้งในสหรัฐ, เอเชีย, และไทย) ในขณะที่รายได้ของ Aeroklas อยู่ที่ 1,304 ล้านบาท ลดลง 11% YoY และ 6% QoQ (จาก ปัญหาด้านการขนส่ง และผลการดำเนินงานของ TJM ที่ลดลงซึ่งเป็นผลมาจากชิปขาดตลาด) รายได้ของ EPP อยู่ที่ 655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% YoY (อุปสงค์สําหรับบรรจุภัณฑ์อาหารที่แข็งแกร่ง) แต่ลดลง 5% QoQ (อุปสงค์สำหรับถ้วยน้ำดื่มที่ลดลง) ทั้งนี้อัตรากําไรขั้นต้นโดยรวมอยู่ที่ 32.9% เพิ่มขึ้นจาก 32.8% ในไตรมาส 1/64/65 และ 32.2% ในไตรมาส 4/64/65 (จากอัตรากำไรขั้นต้นของ Aeroflex ที่เพิ่มขึ้น (YoY และ QoQ) และของ Aeroklas ที่ขยายตัว (QoQ))

แนวโน้ม

กําไรหลักของ EPG มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัว YoY (ทรงตัว QoQ) ในไตรมาส 2/65/66 (ก.ค. – ก.ย.) โดยถูกกดดันจากกำไรของ Aeroklas ที่ลดลง เราคาดว่ารายได้ของ Aeroflex จะปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ (กิจกรรมการก่อสร้างที่ฟื้นตัวทั้งในและต่างประเทศ) รายได้ของ Aeroklas คาดว่าจะปรับตัวลดลง YoY (ทรงตัว QoQ) (ยอดขายที่ลดลงซึ่งเป็นผลมาจากชิปขาดตลาด) นอกจากนี้การเปิดประเทศจะหนุนอุปสงค์บรรจุภัณฑ์สําหรับ อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ยอดขายของ EPP ปรับเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เราคาดว่าอัตรากําไรขั้นต้นโดยรวมของ EPG จะอ่อนตัว YoY (อัตรากำไรขั้นต้นของ Aeroklas ที่ลดลง) แต่ทรงตัว QoQ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ลง 11% ไปเป็น 1,587 ล้านบาท และ 9% โดยเฉลี่ยสําหรับประมาณการกำไรระยะยาวของเรา เพื่อสะท้อนสมมติฐานอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายที่สูงขึ้น (จาก 19.4% เป็น 21.0%) ดังนั้นราคาเป้าหมาย ณ สิ้นเดือน มี.ค 2566 ที่ได้มาจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) จึงถูกปรับลดลงเหลือ 12 บาทจาก 16.60 บาท (WACC ที่ 10.9% และ terminal growth ที่ 1.5%)

คำแนะนำ

จากแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในระยะสั้นที่ไม่น่าตื่นเต้น เราจึงไม่เห็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นมูลค่าปัจจุบัน EPG ซื้อขายที่ PE ณ สิ้นปี 2565 ท่ีต่ำเพียง 17.6 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 23.6 เท่า อยู่ 0.8 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) น่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้น เราจึงปรับคำแนะนำจากซื้อ เป็นถือ

- Advertisement -