บล.บัวหลวง: 

Land and Houses (LH TB/LH.BK)

LH – กำไรไตรมาส 2/65 เป็นไปตามคาด; คาดทำกำไรครึ่งหลังของปี 2565 ที่น่าตื่นเต้น

กําไรหลักเป็นไปตามที่เราคาดและตลาดคาด

LH รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% YOY และ 11% QoQ หากไม่รวมกำไรสุทธิ 161 ล้านบาท จากการรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY และ 6% QoQ ซึ่งผลประกอบการเป็นไปตามที่เราคาดและตลาดคาด LH ประกาศจ่ายเงินปันผลสําหรับครึ่งแรกของปี 2565 ที่ 0.25 บาทต่อหุ้น (ต่ำกว่าเราคาดที่ 0.30 บาท) ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนจากเงินปันผลขั้นต้นที่ 2.8% (จะขึ้น เครื่องหมาย XD ในวันที่ 25 ส.ค. และจ่ายปันผลในวันที่ 9 ก.ย.)

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

กําไรหลักที่เติบโต YoY และ QoQ หนุนโดยอัตรากําไรยอดขายที่อยู่อาศัยที่ขยายตัว และรายได้ที่ฟื้นตัวจากธุรกิจปัจจุบันของบริษัท ยอดขายที่อยู่อาศัย อยู่ที่ 8.4 พันล้านบาท (แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 88% และโครงการคอนโด 12%) ทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น 20% QoQ ยอดขายโครงการแนวราบอยู่ที่ 7.3 พันล้านบาท ลดลง 4% YoY แต่เพิ่มขึ้น 13% QoQ ยอดขายโครงการคอนโดอยู่ที่ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% YoY และ 101% QoQ รายได้ธุรกิจให้เช่าและบริการอยู่ที่ 920 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127% YoY และ 39% QoQ อัตรากําไรขั้นต้นจากยอดขายที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 33.6% เพิ่มขึ้น 190bps YoY และ 80bps QoQ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 14.6% เพิ่มขึ้น 280bps YoY และ 20bps QoQ รายได้จากส่วนแบ่งธุรกิจอยู่ที่ 651 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% YoY แต่ลดลง 9% QoQ อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. ทรงตัวอยู่ที่ 1.0 เท่า

แนวโน้ม

กําไรหลักไตรมาส 3/65 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ เราคาดว่ารายได้ที่อยู่อาศัยจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ เนื่องจากแผนเปิดตัวโครงการใหม่จํานวนมากในไตรมาส 3/65 อัตรากําไรขั้นต้นจากยอดขายที่อยู่อาศัยจะขยายตัว YoY จาก 32.1% ในไตรมาส 3/64 (ทรงตัว QoQ) ธุรกิจปัจจุบันของ LH จะเพิ่มขึ้น YoY จากการเปิดประเทศไทยอีกครั้ง แต่ลดลง QoQ เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล นอกจากนี้ โครงการ เดอะ คีย์ พระราม 3 จะหนุนรายได้ไตรมาส 3/65 เนื่องจากโครงการคอนโดนี้มียอดจองเต็ม 100% และเริ่มโอนแล้วในไตรมาส 3

เราคาดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ เนื่องจากกําหนดการเปิดโครงการแนวราบจํานวนมาก ได้แก่ มัณฑนา 2 มอเตอร์เวย์-กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (มูลค่าโครงการ 1.1 พันล้าน บาท), ชัยพฤกษ์ อยุธยา (มูลค่าโครงการ 640 ล้านบาท), Inizio สุขสวัสดิ์ ประชาอุทิศ (มูลค่าโครงการ 820 ล้านบาท), นันทวัน พระราม 9 กรุงเทพ กรีฑาตัดใหม่ (มูลค่าโครงการ 5.2 พันล้านบาท), พฤกษ์ลดา ทางด่วนราม อินทรา – จตุโชติ (มูลค่าโครงการ 1.6 พันล้านบาท) และ Villaggio รังสิต คลอง 4 (มูลค่าโครงการ 1.1 พันล้านบาท) LH วางแผนเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่ 1 โครงการ The Ease 3 พระราม 2 (มูลค่าโครงการ 820 ล้าน บาท)

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

กำไรหลักครึ่งแรกของปี 2565 คิดเป็น 47% ของประมาณการของเราในปี 2565 (และคิดเป็น 48% ของ ประมาณการตลาด) ที่ 8.2 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 18% YoY) เรายังคงประมาณการไว้ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เราคาดว่ายอดขายที่อยู่อาศัยจะอยู่ที่ 29.7 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 8% YoY) และ 33 พันล้านบาทจากรายได้ธุรกิจปัจจุบัน (เพิ่มขึ้น 90% YoY) อาจมีอัพไซด์ต่อกำไรสุทธิจากการขายสินทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาในช่วงครึ่งหลังของปี 2565

คําแนะนํา

เราแนะนำซื้อ LH สำหรับกำไรโดดเด่นในช่วงครึ่งหลังของปี 2565, ธีมกำไรเติบโตแข็งแกร่งในปี 2565 และอัตราเงินปันผลตอบแทนที่น่าสนใจที่ 6.8% (จ่ายปีละสองครั้ง) ราคาหุ้นปัจจุบันปี 2565 ที่ PER 12.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 14.2 เท่า อยู่ 9% เราคงคำแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายอ้างอิงจากวิธี SOTP ที่ 11.50 บาท

- Advertisement -