บล.บัวหลวง: 

PTT Oil and Retail Business (OR TB/OR.BK)

OR – กำไรไตรมาส 2/65 สูงกว่าตลาดคาด; คาดเติบโตต่อเนื่อง YoY

สูงกว่าทุกคาดการณ์

OR รายงานกําไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่ 6,568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104% YoY และ 71% QoQ ผลประกอบการสูงกว่าเราคาด 16% (สูงกว่าตลาดคาด 23%) เนื่องจากกำไรขั้นต้นจากธุรกิจน้ำมันสูงกว่าคาด

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ 1) กำไรจากธุรกิจ Mobility ที่เพิ่มขึ้น, 2) กําไรจากธุรกิจ Lifestyle ที่เพิ่มขึ้น, 3) กำไรจากธุรกิจต่างประเทศที่สูงขึ้น, และ 4) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง ซึ่งอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลงมาอยู่ที่ 3.1% จาก 4.8% ในไตรมาส 2/64 และ 3.7% ในไตรมาส 1/65

สําหรับธุรกิจ Mobility ปริมาณขายน้ำมันของ OR ในไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 6,859 ล้านลิตร เติบโต 24% YoY และ 2% QoQ (อุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในอาเซียน) กําไรขั้นต้นอยู่ที่ 1.61 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้น 31% YoY และ 41% QoQ (จากการจัดการต้นทุนและราคาขายที่มีประสิทธิภาพ) สําหรับธุรกิจ Lifestyle (non-oil) คาเฟ่อเมซอนมีปริมาณขายอยู่ที่ 91 ล้านแก้ว เติบโต 30% YoY และ 10% QoQ ขณะที่ EBITDA margin ของธุรกิจ non-oil อยู่ที่ 27.4% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 27.3% ในไตรมาส 2/64 แต่ลดลงจาก 28.3% ในไตรมาส 1/65 (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและโปรโมชั่นเพิ่มขึ้น) และสําหรับธุรกิจต่างประเทศ ปริมาณขายน้ำมันอยู่ที่ 384 ล้านลิตร เติบโต 19% YoY และ 2% QoQ ขณะที่คาเฟ่อเมซอนมีปริมาณขาย 4.7 ล้านแก้ว เติบโต 79% YoY และ 20% QoQ โดยมี EBITDA margin อยู่ที่ 3.5% เพิ่มขึ้นจาก 2.7% ในไตรมาส 2/64 (กำไรขั้นต้นจากธุรกิจน้ำมันที่เพิ่มขึ้น) แต่ลดลง 3.8% ในไตรมาส 1/65 (กำไรขั้นต้นจากธุรกิจนํามันที่ลดลง)

แนวโน้ม

กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นในประเทศไทยและอาเซียนจะหนุนปริมาณขายของธุรกิจน้ำมันและธุรกิจ non-oil ให้เพิ่มขึ้น YoY ในไตรมาส 3/65 จากมุมมองด้านอัตรากําไร กำไรขั้นต้นจากธุรกิจน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น YoY แต่อ่อนตัว QoQ ในขณะที่อัตรากำไรของธุรกิจ lifestyle มีแนวโน้มขยายตัว YoY หนุนโดยฐานที่ต่ำในไตรมาส 3/64 (เมื่อมีการลดค่าสิทธิและค่าธรรมเนียมการตลาด) และ QoQ (ควบคู่ไปกับปริมาณขายที่สูงขึ้นแม้จะมีแรงกดดันด้านต้นทุนอยู่ก็ตาม) จากแนวโน้มดังกล่าว เราคาดว่ากําไรไตรมาส 3/65 ของ OR จะเพิ่มขึ้น YoY แต่อ่อนตัว QoQ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราปรับประมาณการก่าไรสุทธิปี 2565 เพิ่มขึ้น 42% ไปเป็น 17,672 ล้านบาท เพื่อสะท้อน: 1) การปรับสมมติฐานปริมาณขายปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น 5% ไปเป็น 26.826 ล้านลิตร และ 2) การปรับกำไรขั้นต้นของธุรกิจนํ้ามันเพิ่มขึ้น 23% ไปเป็น 1.24 บาท/ลิตร นอกจากนี้เราปรับราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 ที่ได้มาจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) เพิ่มขึ้นเป็น 32.25 บาท จาก 32 บาท (WACC ที่ 7.6% terminal growth ที่ 2.5%) ทั้งนี้มีโอกาสที่ตลาดจะปรับประมาณการกำไรขึ้นเช่นกัน

คําแนะนํา

ผลประกอบการไตรมาส 2/65 ที่สูงกว่าตลาดคาด กอปรกับคาดการณ์การเติบโตของกำไร YoY ในไตรมาส 3/65 และในปี 2565 หนุนโดยอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้นและการขยายตัวจากทั้งธุรกิจ Mobility และธุรกิจ Lifestyle น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป นอกจากนี้ยังมีอัพไซต์ต่อประมาณการกำไรของเราจากการลงทุนใหม่ๆ เราจึงยังคงคำแนะนํา ซื้อ

- Advertisement -