บล.พาย:
PLANB: บมจ. แพลน บี มีเดีย “กำไร 2Q22 แตะจุดสูงรอบ 10 ไตรมาส ดีกว่าที่เราและตลาดคาด”
คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 7.80 บาท กำไรสุทธิ 2Q22 อยู่ที่ 174 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส นับว่าดีกว่าที่เราและตลาดคาด โดยมีแรงหนุนมาจากการรับรู้รายได้จาก Aqua (15% ของกำลังการผลิตสื่อทั้งหมดของบริษัท) และการใช้จ่ายในสื่อนอกสถานที่ (OOH) ที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งต่อเนื่อง หลังจากมีการเปิดเมืองเต็มรูปแบบ
คาดกำไรจะแข็งแกร่งต่อเนื่องตั้งแต่ 2Q22 ไปถึงสิ้นปี
- รายได้ธุรกิจสื่อแตะจุดสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1.3 พันล้านบาท (+67%YoY, +30%QoQ) หนุนจากกำลังการผลิตสื่อที่เพิ่มขึ้น 18%QoQ เป็น 2.3 พันล้านบาทที่มาจาก Aqua เป็นหลัก ส่วนอัตราการดำเนินงานโตแตะจุด สูงรอบ 6 ไตรมาสที่ 57.3% จาก 52.1% ใน 1Q22 และ 42.8% ใน 2Q21 หนุนจากเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัวขึ้นจากภาคเอกชน หลังจากกรุงเทพฯ มีการคลายมาตรการโควิด-19 อย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่ธุรกิจสื่อดิจิทัล (50% ของรายได้สื่อทั้งหมด) โต +88%YoY และ +34%QoQ มาอยู่ที่ 657 ล้านบาท เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจสื่อโดยรวม
- ธุรกิจการตลาดมีรายได้ 284 ล้านบาท +3%YoY และ +56%QoQ คิดเป็น 20% ของรายได้รวม โดยการเติบโต YoY และ QoQ เป็นผลจากรายได้ที่โตขึ้นจากงานคอนเสิร์ต BNK48 และส่วนแบ่งรายได้จากสมาคมกีฬาฟุตบอล แห่งประเทศไทย (FAT) จากการจัดการแข่งขันระดับทีมชาติหลายรายการ บวกกับกิจกรรมอื่นๆ จำนวนมากก่อนที่ไทยลีกจะเริ่มฤดูกาลใหม่
- อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) โตแตะจุดสูงรอบ 6 ไตรมาสที่ 28.8% หนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และการคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในด้านอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายลดลงแตะจุดต่ำรอบ 4 ไตรมาสที่ 12.6% หนุนจากความประหยัดต่อขนาด (economies of scale)
ภาพรวมที่สดใสใน 2H22
ข้อมูลจาก Nielsen ระบุว่าการใช้จ่ายในสื่อ OOH โดยรวมโตขึ้น 9%MoM มาอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท (+52%YoY) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการตัดงบโฆษณาลงใน 3Q22 จากคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายในประเทศจะอ่อนแอ ขณะที่เราเชื่อว่า OOH จะเป็นประเภทสื่อที่โดดเด่นใน 2H22 ไปจนถึงปี 2023 หนุนจากกระแสการกลับมาทำกิจกรรมนอกอาคาร และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยคาดว่ากำไร 2H22 จะโต YoY จากฐานต่ำเมื่อปีก่อน เพราะผลกระทบของการล็อกดาวน์ แต่คาดว่ากำไรใน 3022 จะลดลง QoQ จากปัจจัยตามฤดูกาลและผลกระทบเล็กน้อยจากเงินเฟ้อ
แนะนำ “ซื้อ”
เชื่อว่าราคาหุ้นที่ลดลงล่าสุดได้สะท้อนปัจจัยลบเกี่ยวกับปัญหา เรื่อง Zipmex Asia’ และความกังวลเกี่ยวกับการตัดงบโฆษณาคริปโตที่ไม่ได้มีนัยสำคัญไปแล้ว คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 7.80 บาท อิง 40xPE’1H23E ที่ค่าเฉลี่ย 5 ปี หรือคิดเป็นค่าพรีเมี่ยม 30% ต่อค่าเฉลี่ยกลุ่มสื่อไทย โดยค่าพรีเมี่ยมดังกล่าวสะท้อนกำไรที่ฟื้นตัวเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม ขณะที่ภาษีป้ายที่สูงกว่าคาด (ปรับในปี 2019) ยังเป็น downside risk อยู่ แต่จะส่งผลกระทบในวงจำกัด
รีวิวผลประกอบการ
- กำไรสุทธิ 2Q22 อยู่ที่ 174 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส รายได้ธุรกิจสื่อแตะจุดสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1.3 พันล้านบาท (+67%YoY, +30%QoQ) หนุนจากกำลังการผลิตสื่อที่เพิ่มขึ้น 18%QoQ เป็น 2.3 พันล้านบาท ที่มาจาก Aqua เป็นหลัก ส่วนอัตราการดำเนินงานโตแตะจุดสูงรอบ 6 ไตรมาสที่ 57.3% จาก 52.1% ใน 1Q22 และ 42.8% ใน 2Q21 หนุนจากเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัวขึ้นจากภาคเอกชน หลังจากกรุงเทพฯ มีการคลายมาตรการโควิด-19 อย่างเต็มรูปแบบ
- ธุรกิจการตลาดมีรายได้ 284 ล้านบาท +3%YoY และ +56%QoQ คิดเป็น 20% ของรายได้รวม โดยการเติบโต YoY และ QoQ เป็นผลจากรายได้ที่โตขึ้นจากงานคอนเสิร์ต BNK48 และส่วนแบ่งรายได้จากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย (FAT) จากการจัดการแข่งขันระดับทีมชาติหลายรายการ บวกกับกิจกรรมอื่นๆ จำนวนมาก่อนที่ไทยลีกจะเริ่มฤดูกาลใหม่
- GPM โตแตะจุดสูงรอบ 6 ไตรมาสที่ 28.8% หนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และการคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในด้านอัตราส่วน SG&A ต่อยอดขายลดลงแตะจุดต่ำรอบ 4 ไตรมาสที่ 12.6% หนุนจาก economies of scale
Revenue breakdown
รายได้หลักของ PLANB แบ่งเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มธุรกิจสื่อดิจิทัลที่คิดเป็น 32% ของรายได้รวม ครอบคลุมสื่อโฆษณาดิจิทัลที่ฉายบนจอ LED ปัจจุบันมีจอฉายแบบดิจิทัลอยู่ 400 หน่วยที่กระจายอยู่ทั่ว 52 จังหวัดของไทย หลักๆ จะเป็นพื้นที่ที่มีมวลชนหนาแน่น กลุ่มธุรกิจสื่อแบบดั้งเดิม (27% ของรายได้รวม) คือ บริการป้ายโฆษณาภาพนิ่งสำหรับลูกค้าทั่วไทย ด้วยจำนวนป้ายโฆษณาและสื่อริมถนน กว่า 1,500 หน่วย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในทำเลดี เช่น ถนนลาดยาง แยกถนนหลักๆ ทางพิเศษ และพื้นที่นอกตัวอาคารในย่านธุรกิจ ในด้านธุรกิจสื่อเคลื่อนที่ (4% ของรายได้รวม) จะรวมถึงจอฉายดิจิทัล โฆษณาติดรถยนต์ และจอ LCD บริเวณระบบขนส่งมวลชน เช่น สถานี MRT และสื่อทั้งภายนอกและภายในรถบัส (2,000 คัน) ธุรกิจอื่นๆ จะรวมถึงสื่อในร้านค้าและสนามบิน (10% ของรายได้ทั้งหมด) และกิจกรรมการตลาดในรูปแบบเพลงและกีฬา (27% ของรายได้รวม)