บล.พาย:
CHG: บมจ. โรงพยาบาลจุฬารัตน์ “กำไร 2Q22 โต YoY แต่ลดลง QoQ”
คงคำแนะนำ “ถือ” มูลค่าพื้นฐาน 3.90 บาท อิง 15xPE’22E ทั้งนี้ แม้คาดว่ากำไรปี 2022 จะปรับสู่ระดับปกติใน 2H22 จากส่วนแบ่งของเคสโควิด-19 ที่ลดลง และจะยิ่งน้อยลงในปี 2023 แต่แนะนำนักลงทุนหาโอกาสเทรด เพราะมีภาพรวมกำไรธุรกิจหลักที่แข็งแกร่งในปี 2023 หรือสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ถึง 1.8 เท่า พร้อมกับมูลค่าหุ้นที่น่าดึงดูดเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มการแพทย์ไทย กำไร 2Q22 อยู่ที่ 878 ล้านบาท (+52% YoY, -35%QoQ) ดีกว่าที่เราและตลาดคาด 11% และ 6% ตามลำดับ เนื่องจากอัตรากำไรที่โตดีกว่าคาด
กำไร 2Q22 โต YoY แต่ลดลง QoQ
กำไร 2Q22 อยู่ที่ 878 ล้านบาท โต 52%YoY แต่ลดลง 35%QoQ ดีกว่าที่เราและตลาดคาด 11% และ 6% ตามลำดับ การเติบโตที่แข็งแกร่ง YoY ได้แรงหนุนจากอัตรากำไรที่โตดีกว่าคาด หรืออยู่ที่ 46.2% (+5ppts YoY และดีกว่าคาด) ได้อานิสงส์มาจากคนไข้ทั่วไป และส่วนแบ่งจากกลุ่มประกันสังคมที่ดีขึ้น พร้อมกับการคุมต้นทุนได้ เป็นอย่างดี ในด้านรายได้อยู่ที่ 2.8 พันล้านบาท (+35%YoY, – 22%QoQ) การเติบโต YoY เป็นผลจากอุปสงค์สะสมจากกลุ่มคนไข้ทั่วไป และส่วนแบ่งที่สูงขึ้นจากโครงการสวัสดิการรัฐ
กำไรมีแนวโน้มกลับสู่ระดับปกติใน 2H22
เชื่อว่าทิศทางกำไร 2H22 จะลดลงทั้ง YoY และ HoH หลังจากส่วนแบ่งของเคสโควิด-19 ลดลงในครึ่งปีหลัง สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลไทยประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น
แนะนำ “ถือ” เพราะมูลค่าหุ้นน่าดึงดูด
คงคำแนะนำ “ถือ” มูลค่าพื้นฐาน 3.90 บาท อิง 15xPE’22E หรือใกล้เคียง -2SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี ทั้งนี้ แม้คาดว่ากำไรปี 2022 จะปรับสู่ระดับปกติในช่วง 2H22 จากส่วนแบ่งเคสโควิด-19 ที่ลดลง และคาดว่าจะยิ่งน้อยลงในปี 2023 แต่เล็งเห็นโอกาสในการเทรดจากกำไรธุรกิจหลักที่แข็งแกร่งในปี 2023 หรือสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ถึง 1.8 เท่า บวกกับอัตราส่วนคิดลดถึง 64% ต่อค่าเฉลี่ยกลุ่มการแพทย์ไทย (ปัจจุบัน CHG ซื้อขายที่ 15xPE’22E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีของ กลุ่มที่ 41.4 เท่า)
กำไร 2Q22 โต YoY แต่ลดลง QoQ
- กำไร 2Q22 อยู่ที่ 878 ล้านบาท โต 52%YoY แต่ลดลง 35%QoQ ดีกว่าที่เรา และตลาดคาด 11% และ 6% ตามลำดับ
- การเติบโตที่แข็งแกร่ง YoY ได้แรงหนุนจากอัตรากำไรที่โตดีกว่าคาด หรืออยู่ที่ 46.2% (+5ppts YoY และดีกว่าคาด) ได้อานิสงส์มาจากคนไข้ทั่วไป และส่วนแบ่งจากกลุ่มประกันสังคมที่ดีขึ้น พร้อมกับการคุมต้นทุนได้เป็นอย่างดี
- ในด้านรายได้อยู่ที่ 2.8 พันล้านบาท (+35%YoY, -22%QoQ) การเติบโต YoY เป็นผลจากอุปสงค์สะสมจากกลุ่มคนไข้ทั่วไป (+25%YoY) และส่วนแบ่งที่สูงขึ้นจากโครงการสวัสดิการรัฐ (+43%YoY) ที่ได้แรงหนุนจากจำนวนผู้ประกันตนที่สูงขึ้น และผู้ป่วยในที่กลับมารับการรักษาพิเศษ
- เชื่อว่าทิศทางกำไร 2H22 จะลดลงทั้ง YoY และ HoH หลังจากส่วนแบ่งของเคสโควิด-19 ลดลงในครึ่งปีหลัง สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลไทยประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น
Revenue breakdown
- CHG มีแหล่งรายได้หลัก 2 ทางคือ 1) คนไข้ทั่วไป และ 2) คนไข้ประกันสุขภาพที่คุ้มครองโดยรัฐบาล กลุ่มคนไข้ทั่วไปแบ่งออกเป็นผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) คิดเป็น 21% ของรายได้ทั้งหมด
- ส่วนกลุ่ม IPD คือบริการทางการแพทย์สำหรับคนไข้ที่ต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งคิดเป็น 15% ของรายได้ทั้งหมด ปัจจุบันมีกำลังรองรับ 755 เตียง ด้วยห้องประเภทต่างๆ เช่น VIP ดีลักซ์ ห้องเตียงเดี่ยว ห้องเตียงคู่ ห้องเตียงพิเศษ ห้อง ICU ห้อง CCU และห้องทารกภาวะวิกฤต (NICU)
- ทั้งยังให้บริการทางการแพทย์กับคนไข้ที่ลงทะเบียนในโครงการประกันสุขภาพของรัฐบาล เช่น ประกันสังคม และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งคิดเป็น 16% และ 48% ของรายได้ทั้งหมด ตามลำดับ