RT เผยผลประกอบการไตรมาส 2/65 รายได้รวม 588.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.82% กำไรฟื้น 100.85% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มองทิศทางธุรกิจไตรมาส 3/65 แนวโน้มดี มุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพบริหารโครงการ แรงงานก่อสร้างกลับมาทำงานปกติ ปัจจัยหนุนต้นทุนก่อสร้างลด พร้อมส่งมอบงานตามกำหนดเวลา

นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2/2565 บริษัทมีรายได้รวม 588.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่มีรายได้รวม 503.69 ล้านบาท จำนวน 84.7 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 16.82% และมีกำไรสุทธิ 0.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 25.31 ล้านบาท จำนวน 25.52 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 100.85%

ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวม 599.46 ล้านบาท จำนวน11.07 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 7.27 ล้านบาท จำนวน 7.06 ล้านบาท

ด้านผลประกอบการครึ่งปีแรก 2565 บริษัทมีรายได้รวม 1,091.18 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,334.98 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิ 25.10 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 44.52 ล้านบาท

สาเหตุที่บริษัทมีการปรับตัวของรายได้และกำไรที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการจัดการต้นทุนวัสดุก่อสร้าง อาทิ เหล็ก,น้ำมัน อีกทั้งการผ่อนคลายมาตรการปิดแคมป์ก่อสร้างในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การจัดการต้นทุนด้านการดูแลแรงงานที่ได้รับผลกระทบมีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้สามารถบริหารงานก่อสร้างและการส่งมอบงาน รวมถึงการรับรู้รายได้จากโครงการต่าง ๆ เร็วขึ้น ขณะที่ บริษัทมีรายได้และกำไรปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลจากการระบาดของโควิด-19 ต่อเนื่องจากปี 2564

สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงไตรมาส 3/2565 บริษัทยังคงมุ่งเน้นการส่งมอบงานเพิ่มขึ้น โดยพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารโครงการ พร้อมทั้งการจัดการแรงงานก่อสร้างที่เริ่มกลับมาทำงานได้ตามปกติ ประกอบกับบริษัทมีความร่วมมือกับบริษัทพันธมิตรเพื่อจัดหาแรงงานเพิ่มเติมในไซต์งานโครงการก่อสร้างใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะมีความชัดเจนและพร้อมเดินทางเข้าพื้นที่ในช่วงเดือนสิงหาคม และจะสามารถดำเนินงานก่อสร้างได้ตามแผนที่วางไว้ อีกทั้งปัจจัยสนับสนุนด้านราคาต้นทุนวัสดุมีแนวโน้มปรับตัวลดลง จึงคาดว่าจะทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น

“ด้วยกลยุทธ์การดำเนินงานที่ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจในไตรมาสนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าอุตสาหกรรมได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และคาดว่าปัจจัยต่าง ๆ ที่กระทบกับต้นทุนมีแนวโน้มคลี่คลาย ประกอบกับแรงงานก่อสร้างที่กำลังจะกลับมา จึงมีความมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถดำเนินงานก่อสร้างได้เร็วขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนส่งมอบงานบางโครงการเพื่อเพิ่มการรับรู้รายได้ของบริษัทอีกด้วย” นายชวลิต กล่าวเพิ่มเติม

- Advertisement -