บล.กรุงศรีฯ:
MAJOR CINEPLEX GROUP (MAJOR TB/ MAJOR.BK)
กลุ่มอุตสาหกรรม | สื่อและสิ่งพิมพ์ |
หุ้น | MAJOR |
มูลค่าพื้นฐาน | 23.00 |
คำแนะนำ | BUY |
เรายังคงคำแนะนำซื้อ MAJOR จากธีมการฟื้นตัว หลังโรคระบาดผ่านไป ในขณะเดียวกัน เราได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2022 ลง 35% เพื่อสะท้อนถึงจำนวนผู้ชมที่ลดลง โดยเรายังคงใช้สมมติฐานว่า MAJOR จะมีผลกำไรจากธุรกิจหลักใน 2H22 ต่อเนื่องจากใน 2Q22
ข้อมูลที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์ไม่น่าตื่นเต้น
ประเด็นสำคัญที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้มีดังนี้ i) จนถึงขณะนี้ เดือนกรกฎาคมนับเป็นเดือนที่ดีที่สุดของ MAJOR เพราะภาพยนตร์ บุพเพ 2 กวาดรายได้ไปได้แล้วถึง 300 ล้านบาท แต่บริษัทคาดว่าเดือนสิงหาคม และกันยายนจะเป็นเดือนที่ท้าทาย เพราะโปรแกรมหนังที่รอเข้าฉายไม่แข็งแกร่งเหมือนกับในเดือนกรกฎาคม และในไตรมาสที่ผ่านมา ดังนั้น ผลประกอบการใน 3Q22 จึงอาจจะไม่ดีเท่ากับใน 2Q22 แต่จะมีโปรแกรมหนังเด็ดกลับมาลงโรงอีกครั้งใน 4Q22 ii) บริษัทพบว่าอุปสงค์ยังซบเซาในกลุ่มผู้บริโภคชั้นรอง โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัดเพราะถูกกระทบจากภาวะเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น ทั้งนี้ บริษัทจะใช้กลยุทธ์ราคาในจังหวัดชั้นรอง อย่างเช่น กระบี่ ซึ่งกำลังซื้อตั๋วชมภาพยนตร์ต่ำ iii) การขึ้นค่าไฟฟ้า และค่าแรงขั้นต่ำส่งผลกระทบน้อยมากต่อตัวเลขผลการดำเนินงานของ MAJOR เพราะ MAJOR จ่ายค่าแรงให้พนักงานสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำมาก และค่าไฟฟ้าก็ถูกรวมอยู่ข้อตกลงแบ่งรายได้กับเจ้าของพื้นที่
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2022-23F ลง 35%
เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2022-23F ลงเฉลี่ย 35% เพื่อสะท้อนถึงรายได้ที่ลดลงใน 2Q22 และแนวโน้มกำไรที่จะแผ่วลงใน 3Q22 ทั้งนี้ เมื่ออิงตามประมาณการใหม่ เรายังคงคาดว่าผลการดำเนินงานจะพลิกฟื้นได้ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป โดยเรายังคงมองว่า MAJOR จะมีกำไรจากธุรกิจหลักตั้งแต่ 2Q22 เป็นต้นไป
คงคำแนะนำซื้อ และปรับลดราคาเป้าหมายจาก 24 บาทเหลือ 23 บาท
เราแนะนำซื้อ MAJOR แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 23 บาท จากเดิมที่ 24 บาท เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไรลงจากเดิม โดยราคาเป้าหมายของเราอิงจากกลางปี 2023 เราคาดว่าผลการดำเนินงานที่พลิกฟื้นจากขาดทุนเป็นกำไรจะทำหน้าที่เป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นของ MAJOR