บล.บัวหลวง:
Bangkok Chain Hospital (BCH TB/BCH.BK)
BCH – โควิดผ่านจุดพีคไปแล้วตามคาด; ภาพครึ่งหลังของปี 2565 ไม่น่าตื่นเต้น
กําไรเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด
BCH รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่ 1.1 พันล้านบาท ลดลง 0.2%YoY และ 44% QoQ หากไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและค่าเผื่อหนี้สูญที่ 100 ล้านบาท กำไรหลักจะอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% YoY แต่ลดลง 39% QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด BCH ประกาศจ่ายเงินปันผลครึ่งแรกของปี 2565 ที่ 0.40 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนจากเงินปันผลขั้นต้นที่ 1.9% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 31 ส.ค. และจ่ายปันผลในวันที่ 14 ก.ย.)
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
รายได้จากธุรกิจการแพทย์อยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท (เป็นผู้ป่วยเงินสด 54% และผู้ป่วยจากประกันสังคม 46%) เติบโต 28% YoY แต่ลดลง 22%QoQ ทั้งนี้รายได้จากผู้ป่วยเงินสดอยู่ที่ 3.0 พันล้านบาท (ซึ่งจํานวน 1.6 พันล้านบาท เป็นผู้ป่วยโควิด รวมทั้งการฉีดวัคซีน Moderna) ลดลง 16% YoY และ 47%QoQ เนื่องจากรายได้ที่เกี่ยวกับโควิดที่ลดลง ขณะที่รายได้จากประกันสังคมอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 247% YoY และ 74% QoQ เนื่องจากโครงการใหม่ของรัฐบาลได้จัดโครงการ COVID ใหม่ที่เกี่ยวกับการเบิกจ่ายประกันสังคม อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 36.9% ลดลงจาก 46.3% ในไตรมาส 2/64 และ 45.1% ในไตรมาส 1/65 สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 7.7% ลดลง 1.6% YoY แต่เพิ่มขึ้น 0.7% QoQ เนื่องจากมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ถูกบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร จํานวน 100 ล้านบาท ในไตรมาส 2/65 ทั้งนี้อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. อยู่ในระดับที่ต่ำมากที่ 0.3 เท่า
แนวโน้ม
กําไรไตรมาส 3/65 มีแนวโน้มปรับตัวลง YoY และ QoQ เราคาดรายได้จะปรับตัวลง YoY และ QoQ เนื่องจากรัฐบาลได้ปรับระบบการเบิกจ่ายโรงพยาบาลเอกชนสําหรับบริการด้านโควิด (การชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับโควิด คิดเป็น 56% ของรายได้ในไตรมาส 2/65) อัตรากำไรหลักมีแนวโน้มลดลงทั้ง YoY และ QoQ (จากอัตรากําไรที่ขยายตัวในไตรมาส 3/64 [อัตรากําไรที่ดีที่สุดอันดับสอง] และปี 2565) สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายจะปรับตัวขึ้น YoY และ QoQ (จากรายได้ที่ลดลง)
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
เราปรับประมาณการกำไรหลักปี 2565 ขึ้น 25% ไปเป็น 4.2 พันล้านบาท (ลดลง 38% YoY จากสถิติสูงสุดในปี 2564) โดยเราปรับเพิ่มประมาณการรายได้ธุรกิจการแพทย์ขึ้น 22% ไปเป็น 1.87 หมื่นล้านบาท (ลดลง 13% YoY) เราคาดอัตรากําไรหลักที่ 22.7% (ลดลง 9.3% YoY) กำไรหลักครึ่งแรกของปี 2565 คิดเป็น 77% ของประมาณการกําไรหลักใหม่ปี 2565 ของเรา (คิดเป็น 84% ของประมาณการตลาด ซึ่งอาจมีการปรับเพิ่มประมาณการขึ้น) สําหรับปี 2566 เราคาดกําไรหลักจะอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท ลดลง 62% YoY (แต่เพิ่มขึ้น 143% จากประมาณการปี 2562 ก่อนมีโควิด) เนื่องจากเราไม่ได้คาดหวังรายได้จากผู้ป่วยโควิดในปีหน้า อัตรากำไรจะอยู่ที่ 13.3% ในปี 2566 ลดลง 9.4% YoY เราคาดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปี 2566 จะอยู่ที่ 13.7% เพิ่มขึ้น 4.2% YoY
คําแนะนํา
ราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับลดลง ซึ่งตรงกันข้ามกับหุ้นโรงพยาบาลอื่นๆ ที่เราให้คําแนะนํา เนื่องจาก BCH ไม่ได้ รายงานผลประกอบการที่น่าตื่นเต้นในไตรมาส 2/65 เราแนะนําขายทำกําไรจากเนื่องจากสถานการณ์โควิดซึ่งมาถึงจุดพีคแล้ว และรายได้จะลดลงในปีนี้และปีหน้า เราคงคำแนะนำ ถือ ที่ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 คิดด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสดที่ 22 บาท (บนสมมุติฐานที่ WACC 7.0% และ terminal growth ที่ 2.0%)