บล.ไอร่า:
CK ช. การช่าง
2Q/65 กำไรสุทธิ 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นโดดเด่น qoq จากเงินปันผล และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม พร้อมประกาศเงินปันผล 1H/65 @0.15 บาท XD : 26/8/65
- CK ประกาศกำไรสุทธิ 2Q/65 จำนวน 300 ล้านบาท ลดลง 6%yoy โดยใน 2Q/64 มีกำไรจากการขายเงินลงทุน 143 ล้านบาท แต่เปรียบเทียบ 1Q/65 พบว่ากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า หลักๆ จากเงินปันผล 232 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม จำนวน 468 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 84 ล้านบาท และ 306 ล้านบาท เมื่อ 1Q/65 และ 2Q/64 ตามลำดับ ตามผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นของ CKP และ BEM
- ทางด้านรายได้งานก่อสร้างกลับสู่ระดับปกติ อยู่ที่ 3,517 ล้านบาท หลัง 1Q165 รับรู้รายได้งาน Preliminary Construction Works ของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง -3,000 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้น 9%yoy ขณะที่มีรายได้ค่าเช่าและขนส่ง 57 ล้านบาท ลดลง 16% qoq และ yoy
- ทางด้านความสามารถในการทำกำไร มี Gross Profit Margin เฉลี่ย 8.16% ลดลงจาก 8.98% และ 9.47% เมื่อ 1Q/65 และ 2Q/64 ตามลำดับ ขณะที่มีค่าใช้จ่ายขายและบริหารจำนวน 496 ล้านบาท ทรงตัว แต่เพิ่มขึ้น 6%qoq และมีดอกเบี้ยจ่าย 363 ล้านบาท yoy เพิ่มขึ้น 10%qoq และ 2%yoy
- ภาพรวม 1H/65 มีรายได้งานก่อสร้างเพิ่มขึ้น 70% อยู่ที่ 10,602 ล้านบาท แต่มีกำไรสุทธิลดลง 20% อยู่ที่ 421 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก Gross Profit Margin ปรับลดลง 1% อยู่ที่ 8.71% ขณะที่ 1H/64 มีรายพิเศษจากเงินชดเชยดอกเบี้ยจากค่างานก่อสร้าง และกำไรจากการขายเงินลงทุนจำนวน 383 ล้านบาท และ 143 ล้านบาท ตามลำดับ โดย CK ประกาศจ่ายเงินปันผล 1H/65 @0.15 บาท XD:26/8/65 และจ่ายในวันที่ 12/9/65
- คาด Backlog หลังรับรู้รายได้ 2Q/65 อยู่ที่ ~58,000 ล้านบาท และมีโอกาสเพิ่มขึ้นโดดเด่นอีกครั้ง จาก (1) โครงการไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง มูลค่าประมาณ 70,000 – 80,000 หลัง CKP สามารถลงนาม EPC โครงการดังกล่าว คาดทำให้ Backlog ของ CK สูงกว่า 100,000 ล้านบาท และ (2) โครงการสายสีส้มตะวันตก ศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ เป็นการลงทุน PPP ภายใต้เกณฑ์ใหม่ (ราคา 70 เทคนิค 30) มูลค่างานก่อสร้าง 127,012 ล้านบาท ซึ่ง BEM เข้าประมูล และ CK รับงานก่อสร้าง คาดทราบผล 2H/65
- ภาพรวมทั้งปี’65 คาดรายได้ก่อสร้าง 16,016 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% โดย CK ยังคงเป้าหมาย GPM ที่ 7-10% ทำให้คาดกำไรสุทธิ (จากการดำเนินงานปกติ) 515 ล้านบาท ลดลง 43% จากปี 64 ซึ่งรวมกำไรจากการขายเงินลงทุนและที่ดินรวม 422 ล้านบาท และเงินชดเชยดอกเบี้ยจากค่างานก่อสร้างอีก 383 ล้านบาท
- ประเมินราคาเป้าหมายปี’65 ที่ 23.80 บาท อิง PBV 1.5X คาดราคาหุ้นถูกกดดันตามภาพรวมกลุ่มฯ ภายใต้ความเสี่ยงทางด้าน แรงงาน / การเมือง และราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อต้นทุนวัสดุก่อสร้างสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม งานส่วนใหญ่ของ CK เป็นงานที่มีค่า K คาดช่วยลดความเสี่ยงในระดับหนึ่ง พร้อมจุดเด่นจากบริษัทที่ร่วมลงทุนทั้งงานก่อสร้าง เงินปันผล และกำไรจากการขายเงินลงทุน ทำให้ยังแนะนำ “ซื้อ” สำหรับการลงทุนในระยะกลาง – ยาว โดยเฉพาะช่วงราคาปรับลดลง