บล.ทรีนีตี้:

แลนด์แอนด์เฮ้าส์ – LH

ยอดขายและโอนแนวราบเติบโตดี รอโครงการใหม่รองรับ Demand

  • รายงานกำไรสุทธิ 2Q65 ที่ 2.14 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 10.8% QoQ และ 14.4% YoY โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 9.22 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 21.8% QoQ และ 4.5% YoY
  • ยอด Presales สะสม 1H65 อยู่ที่ 1.54 หมื่นล้านบาท คาด 3Q65 สามารถเติบโตได้ QoQ และ YoY จากการเปิดตัวโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้น และยังมี Demand รองรับ
  • ยังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2565 ที่ 7.9 พันล้านบาท โดยมียอด Backlog รอโอนที่ 4.5 พันล้านบาท
  • ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.25 บาท XD วันที่ 25 ส.ค. 2565
  • แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 9.80 บาท

2Q65 Earrings Review

  • LH รายงายงานกำไรสุทธิ 2Q65 ที่ 2.14 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 10.8% QoQ และ 14.4% YoY โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 9.22 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 21.8% QoQ และ 4.5% YoY
  • รายได้จากการโอนใน 2Q65 อยู่ที่ 8.36 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 20% QoQ และ Flat YoY โดยเป็นสัดส่วนจากการโอนโครงการแนวราบที่ 7.35 พันล้านบาท เติบโต 14% QoQ แต่ลดลง 2.3% YoY และเป็นสัดส่วนของคอนโดที่ 1.05 พันล้านบาท จากการเริ่มโอนโครงการ The Key Rama 3 เป็นไตรมาสแรก
  • กำไรส่วนแบ่งจากบริษัทร่วมอยู่ที่ 651 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 9.1% QoQ จากกำไรที่ลดลงของ QH และ LHFG แต่ปรับตัวสูงขึ้น 1.1% YoY
  • ยอด Presales ใน 2Q65 อยู่ที่ 7.41 พันล้านบาท ปรับตัวลดลง 7.3% QoQ และ 5.2% YoY เนื่องจากใน 2Q65 มีการก่อสร้างล่าช้ากว่ายอดขาย ทั้งนี้ในช่วง 1H65 มียอด Presales สะสมที่ 1.54 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับ 1H64
  • Gross Margin ใน 2Q65 อยู่ที่ 33.6% ปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 32.8% ใน 1Q65 และ จาก 31.6% ใน 2Q64
  • รายได้จากกลุ่มค่าเช่าและโรงแรมใน 2Q65 อยู่ที่ 920 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 39.2% QoQ และ 126.7% YoY โดยการฟื้นตัว QoQ เป็นผลมาจากอัตราเข้าพักของกลุ่มโรงแรมสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 70% ในขณะที่การเติบโต YoY มาจากการรับรู้รายได้จากโครงการ Spring Hill ที่สหรัฐฯ เมื่อช่วง 4Q64

ยังคงคาดการณ์กำไรปี 2565 ที่ 7.9 พันล้านบาท

ยังคงคาดรายได้จากการโอนปี 2565 ที่ 3.21 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 7.9 พันล้านบาท โดยปัจจุบันมียอด Backlog รอโอนที่ 4.5 พันล้านบาท เป็นสัดส่วนโครงการแนวราบที่ 2.6 พันล้านบาท และส่วนของคอนโดที่ 1.89 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถโอนได้ทั้งหมดในปี 2565 ในขณะที่รายได้จากกลุ่มโรงแรมคาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มทางเข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้น และการเปิดให้บริการโรงแรม Grand Center Point Space Pattaya และการ Terminal 21 Rama 3 ที่จะเปิดให้บริการใน 4Q65

Demand โครงการแนราบสูง ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 9.80 บาท

ยอดขายจากโครงการแนวราบยังคงเป็นกำลังหลักในการหนุนการเติบโต และการฟื้นตัวของรายได้กลุ่ม Recurring Income จากการให้บริการ 2 โครงการใหม่ในช่วง 2H65 เราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 9.80 บาท จากการอิงผลประกอบการปี 2565 ทั้งนี้ LH ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.25 บาท XD วันที่ 25 ส.ค. 2565

- Advertisement -